fbpx
Home
|
อาชญากรรม

บุกค้น คลินิกเสริมความงามเถื่อน ใช้เครื่องสำอางไม่มี อย.

Featured Image
ตํารวจสอบสวนกลางร่วม อย. และ สบส. บุกค้นคลินิกเสริมความงาม ใช้เครื่องสําอางฉีดแทนยา, ยาไม่มีทะเบียน และเครื่องสําอางไม่มี อย. กว่า 943 ชิ้น

 

 

 

วันนี้ (22 กันยายน 2566 ) ที่กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง โดย พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ ผกก. และ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ ภก. วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้น 4 คลินิกเสริมความงามที่ใช้เครื่องสําอางฉีดแทนยา, ยาไม่มีทะเบียน และเครื่องสําอางแสดงฉลากไม่ถูกต้อง รวมกว่า 943 ชิ้น

 

 

 

สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจพบการโฆษณาเครื่องสําอางที่บรรจุในภาชนะบรรจุ รูปแบบแอมพูล/ไวแอล มีการนําไปใช้ผิดวิธี/ผิดวัตถุประสงค์ในคลินิกเสริมความงาม โดยอวดอ้างสรรพคุณ ในการบํารุงรักษา, ฟื้นฟูสภาพผิว, ลดฝ้า กระ จุดด้างดํา และริ้วรอย, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ฯลฯ อันมีลักษณะการใช้เช่นเดียวกับยารักษาโรค ซึ่งหากฉีดเข้าสู่ร่างกายและเข้าสู่กระแสเลือด

 

 

 

อาจมีอันตราย ต่อร่างกาย ด้วยเครื่องสําอางดังกล่าวไม่ได้ผ่านการรับรองการฆ่าเชื้อ และผลิตในเชิงการแพทย์ อีกทั้ง ไม่พบว่าเป็นเครื่องสําอางที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานแพทย์ของรัฐ จึงประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ สบส. และเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. เข้าร่วมตรวจสอบคลินิกเสริมความงามที่เข้าข่ายกระทําความผิด

 

 

 

ต่อมาวันที่ 13 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ อย., เจ้าหน้าที่ สบส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. เข้าร่วมตรวจสอบสถานพยาบาลคลินิกเสริมความงาม 4 แห่ง ในพื้นที่เขตสวนหลวง, เขตบึงกุ่ม, เขตดุสิต และเขตวังทองหลาง

 

 

จากการสอบสวนปากคําแพทย์และผู้ช่วยพยาบาล ทั้ง 4 คลินิกให้การว่า เครื่องสําอางของกลาง ที่ตรวจยึด เป็นเครื่องสําอางที่ได้จดแจ้งเลข อย. ประเภทเครื่องสําอางสําหรับทาผิว/ผิวหน้า โดยไม่ต้องล้างออก แต่ลักษณะขวดผลิตภัณฑ์บรรจุในภาชนะบรรจุรูปแบบไวแอล มีลักษณะขวดแก้วใส มีฝาจุกยาง ปิดฝาขวดด้วย อลูมิเนียม คล้ายขวดยาสําหรับฉีด โดยอ้างว่ามีคุณสมบัติในการบํารุงรักษา, ฟื้นฟูสภาพผิว, ลดฝ้า กระ จุดด้างดํา และริ้วรอย, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ฯลฯ อันมีลักษณะผิดวัตถุประสงค์ของเครื่องสําอาง ที่จดแจ้งไว้

 

 

 

 

และพบว่ามียาที่ไม่มีทะเบียน เครื่องสําอางที่มีฉลากไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจสอบ ใบประวัติการรักษาของผู้เข้ารับบริการพบว่า มีการตรวจรับรักษาด้วยการฉีดเครื่องสําอางที่ตรวจยึดจริง

 

 

 

โดยของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด 943 ชิ้น เป็นเครื่องสําอางที่นํามาฉีดกว่า 779 ชิ้น, ยาไม่ขึ้นทะเบียน ตํารับยากว่า 109 ชิ้น และเครื่องสําอางที่มีฉลากไม่ถูกต้อง 55 ชิ้น ของกลางทั้งหมดนําส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดําเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

 

 

ซึ่ง พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 กล่าวว่าฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรศึกษา และซักถามคลินิกที่เข้ารับบริการว่า ยาและเครื่องสําอางที่ทางคลินิกใช้รักษา มีการขึ้นทะเบียนตํารับยา และ เครื่องสําอางได้จดแจ้งกับทาง อย. ถูกต้องหรือไม่ ในส่วนของคลินิกเสริมความงามและแพทย์ที่นําเครื่องสําอาง มาใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายผู้รับบริการ อาจเสี่ยงทําให้ชีวิตร่างกายของผู้รับบริการเสียชีวิต

 

 

 

หรือเกิดอาการเจ็บป่วย อันมีความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาจึงขอเตือนว่าไม่ควรนําเครื่องสําอางมาฉีดรักษาให้บริการโดยเดด็ขาด พี่น้องประชาชนที่พบเห็นการโฆษณาใช้เครื่องสําอางมาฉีดรักษา หรือการโฆษณาเกินจริง สามารถแจ้งข้อมูลได้ ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

 

 

 

ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวต่อว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอขอบคุณตํารวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ที่สืบสวน ขยายผลร่วมตรวจสอบคลินิกที่โฆษณาและรีวิวในเว็บไซต์ มีการนําเครื่องสําอางในขวดรูปแบบยาฉีด (แอมพูล/ไวแอล) ฉีดเข้าร่างกายหรือใช้ร่วมกับเครื่องมือแพทย์อื่น ๆ ในการผลักดันสารเข้าสู่ผิวหนังเพื่อความสวยงาม โดยอ้างว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่าน อย. แล้ว

 

 

 

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่จดแจ้งเป็นเครื่องสําอางจะไม่มีการประเมินความปลอดภัยจากการใช้กรณีนําไป ฉีดหรือใช้ร่วมกับเครื่องมือแพทย์ เนื่องจากเครื่องสําอางจะใช้ทาภายนอก ดังนั้น หากนําเครื่องสําอางไปใช้ผิด วิธีหรือผิดวัตถุประสงค์อาจเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้ ทั้งนี้ อย. ได้มีการเพิกถอนใบรับจดแจ้งเครื่องสําอางที่พบว่า มีการนําไปใช้ฉีดแล้ว จํานวน 3 ฉบับ และมีการดําเนินคดีผู้โฆษณาจํานวน 12 รายต่อไป

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube