fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ลูกทาสยาบ้าตีพ่อแม่ น่วมต้องยกมือไหว้ขอชีวิต

Featured Image
ลูกติดยาบ้าหนักทำร้ายพ่อแม่จนน่วม พ่อต้องยกมือไหว้ขอชีวิต ขณะตำรวจคุมตัวดำเนินคดีแล้ว

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ชุมชนข่าวขอนแก่น” ซึ่งได้โพสต์ภาพหญิงรายหนึ่ง มีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้ายช้ำทั้งตัว และมีบาดแผลแตกเย็บนั่งอยู่บนรถเข็นโรงพยาบาล พร้อมข้อความระบุว่า “ต้องการติดต่อร้องเรียนให้ช่วยเหลือ ถ้าทำร้ายร่างกายแม่แบบนี้โทษหนักสุดเท่าไหร่ครับ คือไปแจ้งความไว้แล้วครับ ไม่รู้ตำรวจจะดำเนินการให้ยังไงครับ มัญจาคีรีครับ เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อวาน18.11 น.(3ก.ค.66) ผมพาคนเจ็บไปโรงพยาบาล ทำแผลเสร็จ ไปแจ้งความที่โรงพัก

 

 

แต่ร้อยเวรไม่อยู่เลยได้กลับบ้าน ตำรวจบอกให้มาพรุ่งนี้ ผมไม่เข้าใจคือ ถ้าแจ้งเหตุนี่ เราแจ้งไม่ได้ตลอด24 ชม หรอครับ คนที่ทำร้ายเป็นลูกชาย ติดยาเสพติด ขอเงินแม่ไม่ได้ ใช้ไม้ฟาดศีรษะแม่ ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายอะไรมาก ผมแต่อยากถามแอดมิน ว่าโทษหนักสุดเท่าไหร่ครับ อีกอย่างที่ข้องใจคือตอนไปแจ้งความ ตำรวจบอกให้มาพรุ่งนี้ บอกร้อยเวรไม่อยู่

 

 

คือคนเป็นแม่ก็อยากให้เอาถึงที่สุดอะครับเพราะที่คนร้ายทำเมื่อวานผมก็อยู่ในเหตุการณ์ เขาจงใจฆ่าเพราะไม่ยั้งมือ ดีที่วิ่งออกมาถนนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน นี่คือผมไปเมื่อคืน ห้องปิดเงียบ มีตำรวจอยู่2คน ร้อยเวรไม่อยู่ เขาเลยบอกมาใหม่ ผมถ่ายได้แค่นี้ครับ ตำรวจบางครั้งก็ไม่ใช่ที่พึ่งของประชาชนครับ มีแต่จะรีดไถ (มีคลิป) มันจะปลอดภัยต่อครอบครัวพวกเรามั้ยครับ คือเรื่องทำร้ายร่างกายมานานมาก พ่อก็โดนคนร้ายกระทืบ ก็รักษาตามมีตามเกิดครับ ผู้บาดเจ็บอยากให้มาทำข่าวครับเหมือนจะพึ่งตำรวจไม่ได้”

 

 

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นางวาสนา อายุ 48 ปี และนายอุดม อายุ 51 ปี จ.ขอนแก่น ซึ่งร้องขอความช่วยเหลือ ขอให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลาง นำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว เพราะลูกชายติดยาบ้า ทำร้ายบิดามารดา บาดเจ็บ แจ้งตำรวจก็ไม่รับแจ้ง จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือนำบุตรชาย เข้าสู่การบำบัดรักษา เพราะถ้าไม่รักษา เชื่อว่าลูกชายต้องฆ่าพ่อแม่แน่ๆ นายอุดม กล่าวว่า ลูกชายคือนายโกมินทร์ ติดยาบ้า แต่ละวันจะขอเงินเช้า เที่ยง เย็น ครั้งละ20-50-100 บาท

 

 

เอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ และไม่ทำงาน เคยทำร้ายพ่อแม่มาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้หนักที่สุด จนแทบเอาชีวิตไม่รอด โดยในวันเกิดเหตุ ช่วงเช้าของวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ได้ขับรถพานายโกมินทร์ อายุ 26 ปี ลูกชายคนโตไปทำบัตรประชาชน กลับถึงบ้านตอนบ่าย ลูกชายก็ขอเงิน แต่พ่อไม่ให้ โดยบอกกับลูกชายว่า เอาไว้ให้แม่ซื้อกับข้าวให้กิน ลูกชายไม่พอใจตรงเข้าชก เตะ ต่อยหลายครั้ง จึงตัดสินใจควักเงินให้ 50 บาท เมื่อได้เงินลูกชายก็ออกจากบ้านไป ตนจึงออกไปทำนา

 

 

ด้าน นางวาสนา กล่าวว่า วันเกิดเหตุ สามีพาลูกชายคนโตไปทำบัตรประชาชน ส่วนตนกับลูกชายคนเล็กไปทำนา ช่วงบ่ายสามีไปที่นาในสภาพบอบช้ำทั่วร่างกาย โดยสามีบอกว่า ถูกลูกชายคนโตทำร้ายร่างกาย ตอนเย็นตนจึงกลับเข้าบ้าน เพื่อนึ่งข้าวและทำกับข้าวกินกัน ขณะกำลังนั่งก่อไฟที่เตาถ่าน นายโกมินทร์ เดินมาขอเงิน จึงบอกว่าไม่มี

 

 

” นายโกมินทร์ ก็ตรงเข้ามาเตะจนฟุบลงกับพื้นดิน จากนั้นก็เอาด้ามไม้กวาด ยาว 80 ซม.มาฟาดตามร่างกายหลายสิบครั้ง ตั้งสติลุกขึ้นได้รีบวิ่งออกจากบ้าน นายโกมินทร์ก็วิ่งไล่ตีที่ศีรษะจนแตก กระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยเหลือไว้ได้ ญาติพี่น้อง จึงพาตนส่งที่รพ.และพาเข้าแจ้งความ แต่ตำรวจบอกว่า ให้มาแจ้งในวันถัดไป เพราะร้อยเวรไม่อยู่ จึงได้กลับบ้านและมาแจ้งความในวันที่ 4 ก.ค.ส่วนลูกชายก็ถูกตำรวจจับตัวไปเรียบร้อยแล้ว”

 

 

นางวาสนา กล่าวต่ออีกว่าอยากขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ให้เป็นสื่อกลางสื่อสารไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเอาลูกชายไปบำบัดรักษาอาการติดยาบ้าให้ด้วย บำบัดเป็นปียิ่งดี เพราะไม่เช่นนั้น ลูกชายออกจากคุกมา ต้องมาลักเอาทรัพย์สินของมีค่าในบ้านไปขาย เพราะที่ผ่านๆมาในแต่ละวัน ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ลูกชายไม่มีเงินซื้อยาบ้าเสพ ลูกชายจะเอาข้าวเปลือกไปขาย เอาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ และเชื่อว่า ถ้าลูกชายออกจากคุก ก็จะกลับมาเสพยาบ้าอีก และจะต้องฆ่าพ่อกับแม่แน่นอน

 

 

 

ด้าน พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.มัญจาคีรี กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบล รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกายบุพการี ที่บ้านโนนงาม ต.นางาม อ.มัญจาคีรี ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว มีเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลนางามจึงประสานขอกำลังตากชุดสายตรวจร้อยเวร 20 เข้าควบคุมตัวนำตัวนายโกมินทร์ ได้ที่บ้านพัก นำตัวมาที่สภ.มัญจาคีรี และทำการตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง และนายโกมินทร์ก็รับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวไว้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

 

 

“กรณีของผู้เสียหายที่เป็นมารดานั้น ทราบว่า ถูกตี บาดเจ็บ มีญาติเข้าแจ้งความ ตำรวจจึงแนะนำไปว่า ให้ไปพบแพทย์รักษาตัวก่อนค่อยมาแจ้งตวามก็ได้ จากนั้นวันต่อมาผู้เสียหายได้มาแจ้งความ และให้ปากคำกับพนกงานสอบสวนแล้ว จากการสอบสวนมารดาและบิดา ต่างก็ยืนยันให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกชาย พนักงานสอบสวน

 

 

จึงได้แจ้งข้อหากับนายโกมินทร์อีก 1 ข้อหาคือข้อหา ทำร้ายบุพการี ตามป.อาญา มาตรา 296 ซึ่งนายโกมินทร์ก็รับสารภาพว่า ที่ทำร้ายบิดามารดา เพราะโมโหที่ขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพไม่ได้ จึงทำร้ายมทารดาตัวเอง และชกต่อยบิดา หลังทราบรายละเอียดและผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พนักงานได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ศาล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube