fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ตร.จับมือปั้มบางจากเตือนภัยออนไลน์

Featured Image
ตร.จับมือปั้มบางจากเตือนภัยออนไลน์ ผุดไอเดียจัดทำข้อสอบป้องกันโดนหลอก

 

 

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับบางจากรณรงค์เตือนภัยออนไลน์ ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก ถนนกรุงเทพฯ-กรีฑาตัดใหม่ ( ถ.ร่มเกล้า -ศรีนครินทร์) โดยเฉพาะปัจจุปันที่คดีเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์มีผู้ตกเป็นเหยื่อมากขึ้น โดยเฉพาะ 5 อันดับ คือคดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ, คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ, คดีหลอกลวงให้กู้เงิน, คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วโอนเงินและคดีหลอกลวงให้โอนเงินผ่านระบบความพิวเตอร์รวมถึงคดีที่น่าสนใจเพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบและรู้เท่าทันภัยออนไลน์

 

 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการประสานข้อมูลพร้อมเร่งประชาสัมพันธ์เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้คนตกเป็นเหยื่อน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งการได้รับความร่วมมือจากสถานีบริการน้ำมันต่างๆในการติดตั้งสื่อรณรงค์ตามห้องน้ำชายและหญิง เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างการรับรู้ถึงข้อมูลและข่าวสารได้อย่างกว้างขวาง

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันที่มีคนเดินทางมาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันจำนวนมาก พร้อมเตรียมขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชนอื่นๆเพิ่มเติม พร้อมระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างจัดทำข้อสอบออนไลน์ เพื่อเป็นวัคซีนไซเบอร์ ให้ภาคประชาชนได้ทำ 80 ข้อสอบ ส่วนตำรวจ จะเพิ่มมาอีก 10 ข้อ หากทำได้จะช่วยให้รู้เท่าทันและป้องกันภัยได้ 100% โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดทำมีความคืบหน้าแล้ว 30-40% โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

 

 

ด้าน นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่าปัจจุปันมีคนตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพราะคนร้ายมีวิธีการหลอกลวงให้เหยื่อสนใจโดยเฉพาะผลประโยชน์ค่าตอบแทนที่สูง ซึ่งจริงๆแล้วอะไรที่ดีเกินจริงไม่มี การได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์นี้เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะตามปั้มน้ำมันจะมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก จะมองเห็นป้ายหรือข้อความรณรณรงค์ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถทัวร์โดยสารที่จะแวะมาเข้าห้องน้ำก็สามารถมองเห็นถือว่าครอบคลุมกล่มเป้าหมายมากขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตาม จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 5 มิ.ย.66 พบว่ามีประชาชนแจ้งความร้องทุกข์กว่า 9,768 เรื่อง หรือคิดเป็น 3.58 % ของจำนวนเรื่องการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 351 ล้านบาท และการกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง

 

 

นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับหรือความผิดฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube