ไอซ์ เผย สบายใจขึ้นหลังแจงพงส.ปมซื้อไซยาไนด์ นานกว่า5ชม.ยอมรับเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ จ่อฟ้องเพจลงข่าวโยงการตาย อดีตผจก.ทำเสียชื่อเสียง ขณะ บิ๊กโจ๊ก ยันสอบไอซ์ยังไม่พบความผิด เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการภายใน 2สัปดาห์
น.ส.ปรีชญา พงษ์ธนานิกร หรือ ไอซ์ นักแสดง เปิดเผยหลังเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการฆาตกรรมต่อเนื่องของนางสาวแอม นานกว่า 5 ชั่วโมง หลังจากถูกออกหมายเรียกกรณีสั่งซื้อไซยาไนด์ล็อตเดียวกับนางสาวแอม โดยอ้างว่านำมาใช้ไล่สัตว์เลื้อยคลานที่มารบกวนภายในบ้านพัก ว่า รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะหากไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงอะไรก็คงไม่สบายใจ โดยวันนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ทั้งสิ้น โดยเป็นการมาให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น และไอซ์ ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการนำโทรศัพท์มือถือมาแสดงขั้นตอนต่างๆ ให้เห็นความเชื่อมโยงของเว็บไซต์และการสั่งซื้อทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนทราบ และมีการส่งของกลางไซยาไนด์ไปยังพิสูจน์หลักฐานให้ตรวจสอบโดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะแจ้งอีกครั้งว่าจะต้องเข้ามาพบอีกหรือไม่แต่เบื้องต้นยังไม่มีการนัดหมายให้มาให้ปากคำเพิ่มเติม
ไอซ์ กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่ได้รับและเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกๆ คนที่อาจจะยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์แบบตนเอง ส่วนในโซเชียลหรือเพจต่างๆ หากยังมีการต่อว่าหรือโยงคดีที่ผู้จัดการส่วนตัวเสียชีวิตก็จะมีการปรึกษาทนายความเพื่อฟ้องร้อง ซึ่งได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้บ้างแล้ว ส่วนเพจที่โพสต์ยังไม่ได้มีการติดดต่อไปแต่อยู่ระหว่างพิจารณาว่าดำเนินคดีเพราะทำให้ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันวันนี้ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เองก็ได้มีการสอบถามถึงความเชื่อมโยงกับอดีตผู้จัดการที่เสียชีวิต
โดยไอซ์ ได้มีการอธิบายให้เห็นว่าป่วยเป็นอะไรชัดเจนแล้ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย ส่วนครอบครัวของอดีตผู้จัดการไอซ์ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าไอซ์พูดไม่ตรงข้อเท็จจริงทั้งหมดนั้น ได้มีการทำความเข้าใจกันแล้ว พร้อมยอมรับว่ามีความคิดที่จะย้ายบ้านหนีสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์มีพิษที่เข้ามาบ้านด้วย เพราะบ้านค่อยสร้างทรถดและผู้รับเหมาแนะนำให้ซื้อบ้านใหม่ดีกว่าเพราะค่าซ่อมบ้านหลายล้านมาก
ด้านมารดา กล่าวว่าที่ต้องซื้อไซยาไนด์มากำจัดสัตว์เพราะสมัยก่อนตอนที่ยังเล็กได้ยินว่าชาวไร่ชาวนานำมาใช้ฆ่าแมลงต่างๆ แต่ทางนักวิชาการออกมาบอกว่าปัจจุบันไม่ได้ใช้สารนี้และมีการเปลี่ยนสูตรไปแล้วซึ่งทางตนเองก็ไม่ทราบว่าอันตรายแค่สูดดมเข้าไปก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาท้าทายกฎหมายไทยว่าสามารถซื้อหาได้ แต่เพราะไม่ทราบจริงๆ และคงไม่มีใครกล้าท้าทายกฎหมาย
ด้าน ทนายความกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไอซ์ อาจจะถูกดำเนินคดีข้อหามีสารอันตรายฯไว้ในครอบครอง ซึ่งมีทั้งโทษจำและปรับ จึงต้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพนักงานสอบสวนว่าไม่ได้มีเจตนาเพราะไม่ทราบแม้กระทั่งวิธีการใช้ และได้มอบเอกสารหลักฐานใบเสร็จการสั่งซื้อทั้งหมด โดยหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนอาจจะมีการส่งตรวจไซยาไนด์ที่ซื้อมาว่าถูกต้องจริงมั้ยและมีการสอบพยานแวดล้อมต่างๆ และคงติดต่อมาอีกครั้งว่าจะมีการแจ้งข้อหาหรือไม่ซึ่งก็ต้องขอความเมตตาจากพนักงานสอบสวน
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของไอซ์ วันนี้สอบปากคำในฐานะพยานยังไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องรอคุยกับทางอธิบดีกรมโรงงาน ว่าการครอบครองแบบกรณีไอซ์ ทำได้หรือไม่อย่างไร ส่วนตัวไซยาไนด์ที่สั่งมาตรวจสอบแล้วยังไม่พบว่ามีการนำไปใช้ เพราะกลัวอันตราย เหลือเฉพาะคนอื่นที่ครอบครองอยู่ และจะตรวจสอบทุกโรงงานที่มีข้อมูลอยู่ในขณะนี้ และจากการทำงานต่อเนื่องมาหลายวันก็ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจและวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมในภาพรวม
ซึ่งวันนี้คาดว่า ผบ.ตร.ออกหนังสือคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนและนิติวิทยาศาสตร์โดยมอบหมายให้ตนเองเป็นผู้กำกับดูแล และภายใน 2 สัปดาห์จะพยายามสรุปสำนวนส่งอัยการ ส่วนจะขยายผลเชื่อมโยงถึงใครอีกขอเวลาอีกสักระยะ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยยาออกมาใครต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีตามม.157 ถ้าใครผิดก็ต้องดำเนินคดีและถ้าไม่ผิดก็ต้องตอบสังคมให้ได้เช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
