fbpx
Home
|
ข่าว

สภาฯ เดือด! “ชวน” สวนกลับ “เศรษฐา” ยันเป็นความจริงตลอดไป

Featured Image

 

 

 

สภาฯ เดือด! “ชวน“ สวนกลับ “เศรษฐา” ยันเป็นความจริงตลอดไป “ไทยรักไทย” เลือกปฏิบัติกับภาคใต้ บอก ไม่เคยสับปลับ เพราะคนโกหกกับคนโกงเป็นพวกเดียวกัน ขณะ สส.เพื่อไทยประท้วงวุ่น ด้าน ”พิเชษฐ์“ ตัดจบ สิ่งที่พูดในห้องประชุมนี้ ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

 

 

 

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ช่วงค่ำ ภายหลังที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงประเด็นราคายางพารา ที่นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย

 

ปรากฏว่า นายชวน ลุกขึ้นสวนกลับทันทีว่า ตนขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาตอบ แต่ขอยืนยันว่าที่ท่านไปพูดกับนักธุรกิจ แล้วบอกว่าตนอย่าไปเชื่อที่ตนพูด ตนยืนยันว่าตนไม่เคยพูด แต่สิ่งที่ท่านได้อ้างการเลือกปฏิบัตินั้น ตนพูดชัดเจนว่าตนพูดว่าไทยรักไทยเลือกปฏิบัติกับประชาชน โดยประกาศชัดเจนว่าจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ไม่ใช่มุกเดิมมุกเก่าแต่อย่างใด เป็นความจริงที่จะปรากฏตลอดไป

 

“คำตลบตะแลง มันไม่ยั่งยืนหรอกครับ แต่ความจริงนี้ยืนหยัดอยู่ เพราะฉะนั้น ยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯไปพูดกระแนะกระแหนผมข้างนอกนั้น ไม่จริง ผมยืนยันว่าผมเป็นคนที่ไม่พูดอะไรสับปลับ หรือพูดอะไรที่ไม่รับผิดชอบ ผมไม่กล่าวหาใครที่ไม่เป็นความจริง ผมรู้ว่าคนที่ไม่พูดจริง คนโกหก กับพวกโกงบ้านโกงเมือง พวกเดียวกัน นี่คือสิ่งที่อยากบอก ส่วนเรื่องยางนั้น ก็ภาวนาให้เป็นแบบที่ท่านพูดคือให้ราคาดีตลอดไป” นายชวน กล่าว

 

นายชวน กล่าวต่อว่า ที่เราให้ความเห็นนั้น ก็เพื่อที่จะให้เห็นว่าความเชื่อว่าผลจากการปราบยางเถื่อน ต่อไปนี้ ยางจะดีตลอด ไม่เกี่ยวกับปริมาณ อุบสงค์หรืออุปทาน แต่ความคิดของพวกเราคิดว่าอุบสงค์อุปทานเป็นเรื่องสำคัญ ที่จริงสาระก็มีอยู่เท่านี้ ไม่ควรไปพาดพิงถึงพรรคอย่างนู้นอย่างนี้ เพราะอย่างน้อย พรรคประชาธิปัตย์ก็อยู่มานาน ไม่รับใช้พวกโกงบ้านโกงเมือง ไม่ใช่อีแอบ เข้ามามีอำนาจโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง

 

ขอให้ท่านได้อยู่ในประเด็นประโยชน์ของบ้านเมือง ประชาชน ไม่ใช่ไปจดลอกอะไรแล้วมาอ่าน มาพูดในทำนองเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่ตนพูดไปนั้น ตนรับผิดชอบและยืนยันว่า “ผมไม่ได้โกรธอะไรท่านเลย ที่ท่านพูด เพราะผมเชื่อว่าท่านเข้าใจผิด ที่เข้าใจว่าผมพูดถึงพรรคเพื่อไทย แต่ความจริงคือผมพูดในสภาสมัยนั้นคือพรรคไทยรักไทย เพราะการเลือกปฏิบัติเกิดขึ้นในช่วงนั้น และมีผลจนถึงทุกวันนี้”

 

วันนั้นที่ตนยืนยัน ตนขอร้องท่านว่าท่านคงมีบาป บุญ คุณ โทษ ท่านคงรู้ว่าสิ่งที่ปฏิบัติไปในอดีตนั้นมันมีผลกระทบต่อความก้าวหน้าของภาคใต้ ตนขอความกรุณาท่านว่าชดเชยการเสียโอกาส ตนยืนยันว่าตนพูดสิ่งนี้ และวันนี้ตนก็ยืนยันว่าการเสียโอกาสอันเกิดจากการเลือกปฏิบัตินั้น กรุณาช่วยชดเชย งบประมาณในปีที่ผ่านมาไม่มี ตนเอ่ยชื่อ นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นผู้อภิปรายตัวเลขงบประมาณที่จัดสรรไปให้แต่ละภาค วันนี้ยังมีโอกาสในการจัดสรรงบประมาณในปีถัดไปที่จะเห็นว่าท่านจะได้ระลึกถึงการเสียโอกาสของพื้นที่อันเกิดจากการเลือกปฏิบัติหรือไม่

 

“ผมไม่ใช่คนที่พูดบ้าน้ำลายรายวัน สัมภาษณ์ไปเรื่อย ไม่ใช่ครับ เพราะฉะนั้นขอได้โปรดเข้าใจว่าถ้าประโยคใดผมพูดไม่จริง ผมจะไม่ทำ เพราะพูดแล้วผมต้องรับผิดชอบ และผมไม่ได้ขอให้ท่านถอนคำพูด แต่ช่วยไปบอกนักธุรกิจที่ไปพูดกับเขาว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ผมพูด” นายชวน กล่าว

 

จากนั้น นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง ระบุว่าในฐานะที่ตนเคยอยู่พรรคไทยรักไทย ท่านก็แผ่นเสียงตกร่องอยู่เรื่อย เลิกเสียทีเรื่องเก่าๆ เราไปเดินหน้าดีกว่า โตๆกันแล้ว ใหญ่กันแล้ว เคยเป็นอดีตนายกฯ แผ่นเสียงตกร่องตั้งแต่ปีไหนแล้ว ผ่านมาตั้ง 20 ปีแล้ว

 

นายชวน จึงลุกขึ้นสวนว่า “ผมอาจจะแผ่นเสียงตกร่องจริงๆ แต่ความชั่วก็อยู่เหมือนเดิม ถ้าเปลี่ยนไป ผมก็ไม่ไปย้ำอยู่ที่เดิม การทุจริต การเลือกปฏิบัติ มันมีผลพวงมาถึงปัจจุบัน จึงต้องบอกว่าเราต้องไม่อาจปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้น

 

โดยระหว่างที่นายชวนกำลังพูดนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงในบทบาทของ สส. ว่า มีการอภิปรายเสียดสีและพาดพิง สิ่งที่นายชวนอภิปรายพาดพิงถึงพรรคเพื่อไทยที่ตนสังกัดอยู่ ทำให้เกิดความเสียหายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือการบริหารงานในอดีตก็ตาม ท่านใช้คำว่าไม่เคยหรือพูดความจริงอะไรก็ตาม แต่เป็นความจริงของท่านคนเดียวหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และมองว่ากระบวนการเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ชอบ วันนี้เป็นการอภิปรายทั่วไป 152 ท่านจะอภิปรายอะไรก็เต็มที่ ถ้าพาดพิงมาที่พรรคการเมือง บรรยากาศในห้องประชุมก็ไม่จบ

 

ต่อมานายชวน จึงลุกขึ้นกล่าวว่า สิ่งที่ตนอภิปรายเป็นข้อเท็จจริง ตนไม่ได้คิดเอาเอง ตนสามารถบอกรัฐมนตรีได้ว่าที่เลือกปฏิบัตินั้น ใครเป็นคนพูด ตนบอกได้แต่ไม่ประสงค์จะเอ่ยนาม บอกแค่ว่าอดีตนายกฯ แต่ไม่ได้บอกว่าแอบทำหรืออีแอบ พูดต่อหน้าประชาชน ใครเลือกเราก็พัฒนาจังหวัดนั้นๆ ตนขอยืนยันในความจริงที่ตนพูด

 

จากนั้น นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นประท้วงอีกรอบว่าเป็นความเข้าใจของผู้อภิปราย แต่ละเรื่องเป็นความจริงความเท็จ เป็นความเข้าใจที่แตกต่างกันได้ แต่ถ้าจะสรุปความแล้วทำให้พรรคการเมืองอื่นในห้องประชุมเสียหาย ตนก็ต้องลุกขึ้นประท้วง เช่น งบประมาณปี 2567 ที่บอกว่าไม่มีงบของภาคใต้ ตนและสมาชิกในห้องก็เห็นงบลงไปภาคใต้

 

“แล้วนี่เป็นความจริงอย่างไร จะไม่มีสักบาทเลยหรือที่จะลงไปภาคใต้ สส.ภาคใต้ที่นี่หลายคนจะนั่งอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีงบในภาคใต้เลย ฉะนั้น ถ้าเป็นความเข้าใจของสมาชิกแต่ละคน จะเอาเหตุและผลของตนเองมานำเสนอต่อสภา เพื่อโน้มน้าวสมาชิก อันนี้ทำได้เป็นสิทธิ์ แต่ถ้าจะสรุปความว่าสิ่งที่พูดทุกอย่างต้องเป็นความจริง แล้วพวกผมมันเป็นคนเลว พวกผมจะเดินต่ออย่างไรครับ” นายจุลพันธ์ กล่าว

 

ท้ายสุด นายพิเชษฐ์ วินิจฉัยตัดบทว่า สิ่งที่พูดในห้องประชุมนี้ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube