fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ทลายเครือข่ายเงินกู้ทิพย์ออนไลน์

Featured Image
ตํารวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ Shutdown Fake Loan ทลายเครือข่ายแก๊งเงินกู้ทิพย์ออนไลน์ หลังพบผู้เสียหายกว่า 400 ราย เสียหายหลายสิบล้านบาท

 

 

วันนี้ (27 พ.ค.66) พล.ต.ท.วัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว ปฏิบัติการ Shutdown Fake Loan ทลายเครื่อข่ายแก็งเงินกู้ทิพย์ออนไลน์ พฤติการณ์การ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกว่า 400 ราย ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้กู้เงินผ่านเว็บไซต์ค้นหาทั่วไป และจากการได้รับข้อความสั้น (SMS)

 

 

โดยมีการโฆษณาชวนเชื่อในลักษณะให้วงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเงินเร็วและใช้เอกสารน้อย จากนั้นจะให้แอดไลน์ติดตั้งแอปพลิเคชั่นเงินกู้ของมิจฉาชีพ อ้างว่าจะได้รับเงินที่ขอกู้จริง แต่ต่อมามีเงื่อนไขต่างๆ เช่น ต้องโอนเงินมัดจำก่อน ต้องทำกรมธรรม์คุ้มครองวงเงิน ต้องจ่ายค่างวดล่วงหน้า เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป แต่กลับไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด จึงแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด

 

ต่อมาตำรวจ บก.สอท.5 ทำการสืบสวนสอบสวนและราบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาความเชื่อมโยง กระทั่งเมื่อวันที่ 21 พ.ค.66 พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 52 ราย สัญชาติไทย 51 ราย สัญชาติจีน 1 ราย ในข้อหา ” ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” และขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่สำคัญ จำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กทม. 3 จุด และ จ.สระแก้ว 1 จุด

 

 

โดยปฏิบัติการดังกล่าวสามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งหลบหนีอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ 35 ราย อายัดตัว 2 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีอีก 15 ราย นอกจากนี้ จากการตรวจคันในพื้นที่ 4 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดซึ่งหน้าเพิ่มเติมอีก 3 ราย สัญชาติไทย 1 ราย ในข้อหา ” มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ” และสัญชาติจีน 2 ราย ในข้อหา ” เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) ” พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ อาทิเช่น สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ ยาเสพติด เครื่องดื่มสุรายี่ห้อต่างๆ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ พล.ต.ท.วัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ฝากไปยังประชาชนให้พึงระวังการกู้เงินในลักษณะดังกล่าว ต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ หากจำเป็นต้องกู้เงินควรเลือกกู้เงินจากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ รวมไปถึงควรศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน ต้องมีสัญญาการกู้เงินที่ชัดเจนและเป็นธรรม เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม คำนึงถึงความเดือดร้อน และอำนวยความยุติธรรมของประชาชนเป็นสำคัญ

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube