fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ผู้การไซเบอร์ไม่เชื่อ “จ่าสิบโท” ซื้อข้อมูล 5 พันคาดมืออาชีพ

Featured Image
ค้นห้องพักจ่าสิบโทพบ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีจำนวนมาก คาดเป็น มืออาชีพ ผู้การไซเบอร์ลั่น ไม่เชื่อซื้อข้อมูล 8 พัน

 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยหลังตำรวจตรวจค้นภายในห้องพักจ่าสิบโท เจออุปกรณ์อิเล็คโทรนิคหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ทั้งฮาร์ดดิส 7-8ตัว อุปกรณ์รีโมทควบคุมทางไกล โน๊ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อุปกรณ์สำหรับซ่อมคอมพิวเตอร์ เลาร์เตอร์ พอกเก็ต Wi-Fi 3 ค่ายโทรศัพท์ ซึ่งเชื่อว่าจ่าสิบโทเชี่ยวชาญมีความรู้ความสามารถไม่ใช่มือสมัครเล่น

 

การตรวจค้นครั้งนี้ พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับคำให้การของผู้ต้องหา ว่าเป็นคนซื้ออุปกรณ์มา ทางตำรวจมองว่า กลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็จะหาช่องทางที่จะแสดงตัวตนและความสามารถของตัวเอง จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

 

ส่วนการที่ไปซื้อข้อมูลในดาร์กเว็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล เนื่องจากเป็นเครือข่ายเว็บไซต์ที่ซื้อมาเป็นของต่างประเทศ ส่วนราคาซื้อที่จ่าสิบโทอ้างว่า ซื้อข้อมูลส่วนบุคคลมาในราคา 8,000บาทนั้น เป็นเพียงคำให้การเบื้องต้น ตำรวจมีสิทธิ์จะเชื่อหรือไม่อยู่ที่พยานหลักฐาน
ส่วนเรื่องการนำข้อมูลไปขายต่อหรือไม่นั้น ตามคำให้การยืนยันว่า

 

จากการสอบปากคำมี3เจตนา ในการโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลนี้ 1 คือเพื่อต้องการประกาศขาย เนื่องจากต้องการเงิน 2.ต้องการโพสต์ให้คนสนใจ ใช้ข้อมูลของบุคคลมีชื่อเสียง ในลักษณะการข่มขู่ และสุดท้ายพอรู้ว่ามีการติดตามจับกุม ก็การเบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องการเมือง เบื้องต้นการหลบหนีผู้ต้องหาคิดว่า ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้

 

จึงหลบหนีโดยขับรถไปจังหวัดเชียงราย ระหว่างหลบหนีไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ และทิ้งเครื่องมือสื่อสารทุกอย่าง แต่มีการทิ้งเบาะแสคือการแวะไปหาเพื่อนตามสถานที่ต่างๆ ก่อนมุ่งไปที่จังหวัดเชียงรายเพียงคนเดียว ขณะที่เส้นทางการเงินจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการเชื่อมโยงไปยังภรรยา เพราะพบว่าในบัญชีภรรยามีจำนวนเงินหลักร้อยเท่านั้น

 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ พบ IP อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตรงกับที่พักของจ่าสิบโท และเมื่อตรวจพยานแวดล้อมและ สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็นำไปสู่การรวบรวมหลักฐานจนสามารถจับผู้ต้องหาได้ในวันนี้

ส่วนข้อสงสัยที่ว่าจะมีบุคคลอื่นหรือมีผู้บังคับบัญชาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ มองว่า ไม่น่าเกี่ยวข้อง เนื่องจากการตรวจสอบที่พักพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง หากมีคนสั่งการหรือมีหน่วยงานที่ควบคุมดูแล ก็ควรจะมีสถานที่ ที่เป็นความลับในการก่อเหตุมากกว่า

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube