fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“รัชฎา” ยัน ไม่เคยเรียกรับเงินลูกน้อง

Featured Image
“รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา” อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดใจครั้งแรก ยืนยันไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ ส่วนเงินที่พบในซองเอกสารเป็นเงินบริจาค

 

 

วันนี้ (23 ก.พ.2566) นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยหลังจากเข้าไต่สวนมูลฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีที่ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ผบก.ปปป., นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กับพวก รวม 7 คน ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา บุกรุก ซ่องโจร, พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA

 

 

นายรัชฎา เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับนายชัยวัฒน์ มากว่า 10 ปี สมัยที่ นายชัยวัฒน์ เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ทำเรื่องเบิกจ่ายโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ กว่า 4,200 ไร่ เป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท เมื่อปี 2562 แล้วพบว่าไม่มีการดำเนินโครงการ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนที่เรื่องจะเงียบหายไป กระทั่งเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กำลังจะดำเนินการต่อเนื่องจากคดีในชั้น ป.ป.ช.จะหมดอายุความในวันที่ 29 มีนาคมนี้ หากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นไปด้วย

 

จึงคาดว่าเป็นสาเหตุให้นายชัยวัฒน์ ไม่พอใจจึงไปแจ้งความกับตำรวจ ปปป. ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทั่วประเทศ และตำรวจจึงเข้ามาตรวจค้นในห้องทำงานก่อนที่จะพบเงินสดจำนวนกว่า 98,000 บาท พร้อมกับรายชื่อข้าราชการที่อยู่บนซอง

 

 

อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ยังบอกด้วย ว่าในวันที่เกิดเหตุ เป็นวันที่ทางกระทรวงฯ มีงานอยู่ในช่วงเช้า ซึ่งก็มีข้าราชการในสังกัดเข้ามาพบหลายคน ส่วนใหญ่ก็นำซองใส่เงินมาให้ ซึ่งเป็นเงินบริจาคนำไปใช้ในโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ ช่วยเหลืออาหารสัตว์ป่าของกลาง ที่ถูกยึดไว้ โดยให้เงินบริจาคผ่านอธิบดีฯ เพื่อนำเงินเข้าโครงการ

 

ส่วนสาเหตุที่ข้าราชการเหล่านั้นไม่โอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงนั้น นายรัชฎา ระบุว่า เป็นเพราะข้าราชการต้องการให้อธิบดีฯ ทราบว่าร่วมบริจาคเงินเท่าใด แต่ด้วยวัตถุประสงค์อื่นหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้

 

ส่วนก่อนหน้านี้ก็มีหน่วยงานเอกชน และราชการ หน่วยอื่นช่วยมาแล้วกว่า 6 ล้านบาท แต่ด้วยโครงการนี้ต้องใช้เงินกว่า 30 ล้านบาท จึงไม่เพียงพอ และมีการตัดงบประมาณจากโครงการอื่นมาช่วยเหลืออีกกว่า 20 ล้านบาท ส่วนเงินบริจาคในซองก็จะนำเข้าโครงการนี้ทั้งหมด ส่วนการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ได้จัดสร้างไปแล้วกว่า 500 องค์ และได้มีคนได้เช่าไปแล้วกว่า 300 องค์ เหลืออีกกว่า 100 องค์ ทำให้ในวันดังกล่าวมีข้าราชการมาเช่าพระบรมรูป โดยผ่านอธิบดีเช่นกัน ซึ่งเงินนี้จะนำไปอยู่ในโครงการสวัสดิการของข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ

 

ส่วนเงินที่ตรวจยึดได้ในห้อง นายรัชฎา ชี้แจงว่า แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เงินส่วนตัวที่เก็บไว้ในลิ้นชัก เงินที่ข้าราชการนำมาฝากเข้าโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ และเงินเช่าพระบรมรูป เพื่อเข้าโครงการสวัสดิการฯ ส่วนหน้าซองที่มีการเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับเงินว่าเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้างนั้น ขอให้เป็นสำนวนการสอบสวนของตำรวจในคดี ซึ่งให้การไปหมดแล้ว

 

ขณะที่คดีอาญาที่ถูกดำเนินคดี ยังอยู่ระหว่างรอสำนักงาน ป.ป.ช. ไปชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งได้ไปรายงานตัวในเบื้องต้นไว้แล้ว และพร้อมที่จะต่อสู้คดี ยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการในกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยหลังจากนี้จะพิจารณาเรียกร้องความเป็นธรรม จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีที่ถูกดำเนินคดีและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube