fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ตม. ขึ้นblacklist “บังแจ๊ค” ห้ามเข้าประเทศ10ปี

Featured Image
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขึ้น blacklist บังแจ๊ค ห้ามเข้าประเทศ 10 ปี ในคดี Over Stay 450 วัน ถูกศาลสั่งเนรเทศพ้นไทย เมื่อปลายปี 2559 – ตำรวจปส.ไม่พบหลักฐาน2นักค้ายาเชือมโยง บังแจ๊ค

 

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติ และข้อมูลย้อนหลังของ Mr. ZULQARNAIN HAIDER RAJA อายุ 35 ปี หรือ บังแจ็ค หรือ สัญชาติปากีสถาน พบว่าบังแจ๊ค ถูกเคยตำรวจจับกุมดำเนินคดีข้อหา OverStay หรือ อยู่ในราชอาณาจักรเกินกฎหมายกำหนด 450 วัน เมื่อหลายปีที่ผ่านมา

 

หลังถูกจับเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งฟ้องต่อศาล และศาลมีคำสั่งเนรเทศออกนอกราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2559 และอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้อีกครั้งในวันที่ 24 ธ.ค.2569 หรือ ครบ 10 ปีหลังถูกเนรเทศ

 

ปัจจุบันจึงเหลือเวลากว่า 4 ปี ที่ บังแจ็ค จะเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยได้ หากเข้ามาก่อนวันที่ 24 ธ.ค.2569 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะถูกปฏิเสธการเข้าเมืองโดยทันทีหรือถ้าหากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมแล้วพบว่ามีหมายจับก็จะถูกควบคุมตัวจับตามหมายจับทันที

 

ทั้งนี้ หากบังแจ๊ค ปฏิบัติตามเงื่อนไข จะกลับเข้ามาประเทศไทยหลังครบ 10 ปี ตามคำสั่งเนรเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาจหยิบยกพฤติการณ์ในอดีตของ บังแจ๊ค ขึ้นมาพิจารณา และปฏิเสธการเข้าเมือง ตามกฎหมายเข้าเมือง (มาตรา 12 อนุ7)

 

เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศมีรายงานด้วยว่า กรณีที่บังแจ๊ค กล่าวอ้างว่ารู้จักกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาว ที่ถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมขณะเดินทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อปี 2560 นั้น

 

จากการสอบถามตำรวจปราบปรามยาเสพติดชุดจับกุมไม่พบว่าบังแจ๊คมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกันทางคดียาเสพติดกับ นายไซซะนะแต่อย่างใด เช่นเดียวกับกรณีที่ บังแจ๊คอ้างว่ารู้ข้อมูลการฟอกเงินของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ต้องหาที่ตำรวจจับปี2561 ก็ไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกัน แต่การออกมากล่าวอ้างพาดพิงถึงบุคคลทั้งสองมีวัตถุประสงค์หรือต้องการอะไรนั้นจะต้องมีการสืบสวนต่อไป

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube