ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22 รอบรองชนะเลิศ ในวันเสาร์ที่ 16 เม.ย. นี้ เริ่มแข่งเวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามเวมบลีย์ ซึ่ง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะลงสนามพบ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
โดย คู่นี้ พบกันแบบสุดมันส์ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 2-2
สถิติการพบกันทั้งหมด 169 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 45 ครั้ง ลิเวอร์พูล ชนะ 78 ครั้ง เสมอกัน 45 ครั้ง
ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เพิ่งจะบุกไปยันเสมอ แอตเลติโก้ มาดริด 0-0 ทำให้พวกเขาได้ไปต่อในรายการฟุตบอลยุโรป ส่วนในรายการนี้ในรอบที่ผ่านมา ทัพเรือใบสีฟ้า สามารถผ่าน เซาแธมป์ตัน มาได้อย่างไม่ยากเย็น 1-4 ซึ่งก็จับมาพบกับคู่ปรับตัวฉกาจในฤดูกาลนี้ที่ต่างฝ่ายต่างยังมีลุ้นแชมป์ทุกรายการเช่นเดียวกัน
สภาพทีมก่อนเกม ยังคงต้องลุ้นอาการบาดเจ็บของ 2 ตัวเก่งอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ และ ไคล์ วอล์เกอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บในเกมที่พบกับ แอตเลติโก้ มาดริด เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
คาดว่า เป๊ป เตรียมจัดทัพโดยมี กาเบรียล เฆซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ แจ็ค กรีลิช เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดริโก้ เอร์นานเดซ กับ อิลคาย กุนโดกาน ปักหลักคุมกลางตามระเบียบ
ด้าน ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เองก็ผ่านฉลุยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังเปิดบ้านเสมอ เบนฟิก้า มาได้ 3-3 ทะลุเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไป ส่วนในรายการนี้พวกเขาเฉือนเอาชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ มาได้แบบหืดจับในรอบที่ผ่านมาจากประตูโทนของ ดิโอโก้ โจต้า 0-1 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ความพร้อมก่อนเกม หงส์แดง ไม่มีผู้เล่นตัวหลักคนใดที่ได้รับบาดเจ็บ ณ เวลานี้ โดยทุกคนฟิตพร้อมจะเป็นตัวเลือกให้กับ คล็อปป์ ในเกมนี้ทั้งหมด
คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพโดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ ผนึกกำลังกันล่าตาข่ายในแดนหน้าและใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ กับ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า เป็นสามประสานแดนกลางตามสูตร
หากมองทรรศนะเกมนี้ ทั้งสองทีมเพิ่งเจอกันมาหมาดๆในเกมลีก จบลงด้วยการกินกันไม่ลงแบบสาแกใจแฟนๆสุดๆ เกมนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาหวดกันที่สนามกลางในลอนดอน
ด้วยศักยภาพของทั้งคู่แทบไม่ต่างกันเลย เเต่สภาพความพร้อมของลิเวอร์พูลดูดีมากกว่าเนื่องจากเกมยุโรปล่าสุดได้เล่นในบ้านและพักผู้เล่นตัวจริงไว้หลายคน ในขณะที่แมนซิตี้ต้องไปเตะเกมเยือนที่สเปนแถมตัวหลักบางคนมีอาการเจ็บติดตัวกลับมาด้วยแต่ด้วยขนาดทีมและคุณภาพนักเตะแล้วคงไม่มีปัญหาอะไรสามารถลงทดแทนกันได้ งานนี้ดูสูสีมาก เเละแน่นอนด้วยเกมรุกทั้งคู่ดีพอกันอยู่เเล้ว ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าทีมไหนจะใช้โอกาสได้คุ้มค่ามากกว่ากัน คู่นี้มองกว่ามีโอกาสยืดเยื้อต่อเวลาพิเศษออกไป เเต่ด้วยสภาพทีมของลิเวอร์พูลบรรดาตัวหลักอยู่ครบครันกว่าน่าจะปิดจ็อบในช่วงต่อเวลาได้ พร้อมไปยืนรอในรอบชิงชนะเลิศได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
