fbpx
Home
|
ภูมิภาค

ช้างคลั่งเหยียบหนุ่มใหญ่ร่างเละตายคาลำห้วย

Featured Image
ช้างคลั่งเหยียบหนุ่มใหญ่ร่างแหลก ขณะเดินตัดคลองกลับบ้าน  หลังจากเยี่ยมหลวงลุง-หายตัว 3 วันญาติถึงเจอ

เหตุการณ์ช้างทำร้ายคนจนถึงแก่ความตายนี้ดกอกขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ร้อยตำรวจเอกวีระพงศ์ ขุนรัตน์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.พรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบศพอยู่ในป่าละเมาะบนเกาะกลางลำห้วยอ้ายเขียว ท้องที่หมู่ 5 ตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี โดยเบื้องต้นนั้นพบว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุช้างทำร้ายจนถึงแก่ความตาย

หลังจากเข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุพบว่ากลางพงหญ้าในป่าละเมาะดังกล่าวพบศพทราบชื่อต่อมา คือ นายอนุสรณ์ อนันตกูล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 5 ตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช สภาพร่างกายแหลกเหลว ศีรษะหายไปบางส่วน สภาพเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วัน ส่วนเสื้อผ้าพบว่าถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบกองมูลช้าง ร่อยรอยของป่าละเมาะที่รายเรียบไปจากการอาศัยหากินของช้างในบริเวณที่เกิดเหตุเป็นวงกว้าง และยังพบจุดที่ล่ามช้างไว้กับกอไผ่ใกล้กับจุดพบศพ ส่วนช้างนั้นมีพยานที่เห็นว่าเจ้าของได้นำออกไปจากที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเย็นของวานนี้แล้ว

นายอาทิตย์ อนันตกูล อายุ 50 ปี อาของผู้ตายเปิดเผยว่านายอนุสรณ์ได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นญาติได้ตามหาตลอด จนพบเบาะแสว่ามาเยี่ยมลุงที่บวชเป็นพระอยู่ที่วัดอ้ายเขียว ใกล้จุดที่เกิดเหตุหลังจากนั้นได้เดินกลับบ้านแล้วหายตัวไป ส่วนร่างของนายอนุสรณ์ นั้นพระในวัดได้เห็นแล้ว 2 วันแต่เข้าใจว่าเป็นขอนไม้ตั้งอยู่แต่ในวันนี้สังเกตเห็นว่ามีความเปลี่ยนบวมใหญ่ขึ้นจากระยะไกล พระจึงเดินมาดูแล้วจึงเห็นว่าเป็นศพของนายอนุสรณ์

ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานชิ้นส่วนเสื้อผ้า พร้อมทั้งร่องรอยของความรุนแรงจากการที่ช้างทำร้ายนายอนุสรณ์ โดยน่าเชื่อว่าในช่วงที่เกิดเหตุนายอนุสรณ์ ได้เดินลัดเลาะตามลำห้วยเพื่อกลับบ้านที่อยู่อีกฝั่งลำห้วย ไปพบกับช้างสีดอจัมโบ้ซึ่งมีนิสัยที่ค่อนข้างดุ เมื่อเจอกันในระยะใกล้ทำให้ช้างเชือกนี้พุ่งเข้าทำร้ายนายอนุสรณ์จนถึงแก่ความตาย ก่อนที่ร่างจะถูกโยนเล่นจนแหลกเหลวโดยที่ไม่มีใครพบเห็น

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube