fbpx
Home
|
ข่าว

“ทวี” ลุกแจง บอกไม่มีอำนาจออก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์

Featured Image
“ทวี” ลุกแจง บอกไม่มีอำนาจออก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ชี้ อนุมัติในรัฐบาล “ประยุทธ์” ย้อน “จุรินทร์” ท่านก็นั่งอนุมัติอยู่ด้วย ขออย่าใช้อคติในการอภิปราย

 

 

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลุกขึ้นชี้แจง ระบุว่า ตนขออนุญาตชี้แจงหากไม่ชี้แจงในตอนนี้อาจจะทำให้สังคมมีความสับสน ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้พูดถึงกระบวนการยุติธรรมและโยงไปถึงกรมราชทัณฑ์ ตนอยากให้สมาชิกรับทราบว่าพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ปี 2560 เป็นพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน หรือสภาชุดนี้ไม่ได้เป็นผู้ออก และเป็นพระราชบัญญัติที่ออกในยุคสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. และเป็นพระราชบัญญัติที่ตนคิดว่ากรมราชทัณฑ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจอะไรเลยอยู่ในพระราชบัญญัตินี้เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวได้เขียนเรื่องการบริหารโทษไว้ทุกขั้นตอน

 

ถ้าไม่มีการให้ใช้ดุลพินิจแม้แต่เล็กน้อย ซึ่งนายจุรินทร์น่าจะหมายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนรัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ ก่อนรัฐบาลนี้คือรัฐบาลของนายจุรินทร์เป็นผู้บริหารประเทศร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมในรัฐบาลของท่านในขณะนั้นที่วันเดียวก็อนุญาตให้นายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และอยู่ในชั้น 14 ถ้าเป็นการกระทำที่อยู่ในยุคของท่าน ท่านใช้คำพูดอีกแบบหนึ่ง แต่พอเหตุการณ์ต่อเนื่องมาในยุคปัจจุบันท่านกล่าวว่าเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม

 

นายทวี ระบุอีกว่า วันนี้เมื่อเรายอมรับหลักนิติธรรม หลักที่กฎหมายอยู่เหนือบุคคลหลักนิติธรรมได้ถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรมในเรื่องกฎหมายได้เขียนในมาตรา 53 ว่ารัฐต้องมีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในอดีตที่ผ่านมาหลักนิติธรรมไม่เคยมีนิยามในพจนานุกรม แต่หลังจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้มีนิยามไว้ในพจนานุกรม หลักนิติธรรม คือ หลักที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน นี่คือกฎหมายเป็นใหญ่ กฎหมายถึงแม้นายจุรินทร์ไม่ได้เป็นผู้ออก แต่กฎกระทรวงที่ออกเมื่อปี 2563, 2564 ท่านนั่งอยู่ในครม. กฎกระทรวงนี้เป็นกฎกระทรวงของท่านและเขียนว่าที่ท่านบอกติดคุกทิพย์ตนมองว่าเลวร้ายมาก เมื่อเราเขียนไว้ในพ.ร.บ.ราชทัณฑ์มาตรา 55

 

คือเวลาผู้ป่วยต้องให้ส่งรักษา และหากไปดูในเจตนารมณ์ของกฎหมายไม่ให้รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ไม่ให้กรมราชทัณฑ์มีดุลพินิจเลย ให้ใช้ความเห็นของแพทย์และเมื่อแพทย์ส่งไปรักษาแล้วเขาบอกว่าให้โรงพยาบาลหรือสถานที่รักษาคือเรือนจำ คือจำคุก หรือใช้สถานที่จำคุกอื่นคือโรงพยาบาล นายทักษิณได้ไปอยู่ในกฎหมายและกฎกระทรวงที่นายจุรินทร์เป็นผู้มีความเห็นชอบ เพราะตนเองไปดูผลมติครม. ท่านไม่ได้มีการค้านเลย จึงเป็นสิ่งที่อยากจะชี้ให้เห็น

 

วันนี้ท่านทำให้สังคมสับสนว่าคนไปควบคุมอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ได้อยู่ที่เรือนจำ ในเมื่อกฎหมายบัญญัติไว้ลักษณะนั้นในมาตรา 55 วรรคท้าย และใน 1 ปีประมาณ 5 หมื่นกว่าคนไปอยู่ในเรือนจำ เราก็หักว่าเป็นโทษจำคุกเท่ากันไม่เคยหักวันว่าไปรักษาตัวจะต้องมาติดคุกเพิ่มจึงอยากเรียนให้ทราบ

 

นายทวี กล่าวว่า ท่านอาจจะชอบหรือไม่ชอบกฎหมาย แต่ตนเองคิดว่าไม่ใช่กฎหมาย ซึ่งท่านอาจจะมีความรู้สึก ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำของฝ่ายท่านท่านก็จะคิดอีกแบบหนึ่งหรือไม่ ซึ่งตนไม่มีอะไรกับท่านจริงๆมีความเคารพ แต่ตนไม่อยากให้สังคมมีความสับสนในเรื่องกฎกระทรวงหรือระเบียบ เราออกตามมาตรา 33, 34 ที่ให้ออกระเบียบเพราะไม่ว่าจะเป็นการพักโทษการไปอยู่โรงพยาบาล หรือการไปอยู่ที่ไหนท่านยังถูกลงโทษอยู่ กรมราชทัณฑ์เป็นผู้กำหนดกฎหมาย ดังนั้นการที่ท่านระบุว่าถ้าการพักโทษเป็นระเบียบที่ออกเราก็ต้องปฏิบัติตามตามระเบียบ แต่อย่างไรก็ตามเราต้องมองในผลกระทบของสังคมด้วย

 

ซึ่งครั้งนี้ตนอยากลุกขึ้นชี้แจงเพื่อไม่ให้สังคมสับสนและอยากให้สังคมทราบว่าการออกกฏหมายครั้งดังกล่าวตนคิดว่าถ้าตนกล่าวหามีเจตนาจะออกกฏหมายเพื่อขจัดอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้เพราะปกติการพักโทษได้เขียนไว้ 1 ใน 3 แต่สนช.มาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 6 เดือน อันไหนมากกว่าก็ใช้อันนั้น ตนอยากเราให้ฟังความเห็นรอบด้าน ไม่อยากให้ใช้อคติในการอภิปราย

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube