fbpx
Home
|
ข่าว

“ภูมิธรรม” คุยทูตทาจิกิสถานกับชับสัมพันธ์เน้นการค้า

Featured Image

 

 

 

“ภูมิธรรม” คุยทูตทาจิกิสถาน ชูนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทย กระชับความสัมพันธ์ในทุกมิติ เน้นการค้ากับต่างประเทศ โดยใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

 

 

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือกับเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานประจำประเทศไทย (นายอัรดะชีร เกาะดีรี) ที่ กระทรวงพาณิชย์ ว่า ทาจิกิสถานแม้จะเป็นตลาดใหม่ที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับไทยไม่มากนัก แต่มีโอกาสขยายตัวในอนาคต และสามารถเป็นประตูขยายการค้าไปประเทศเอเชียกลาง อาทิ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน โดยไทยพร้อมส่งออกสินค้าที่ทาจิกิสถานต้องการนำเข้าสูง ได้แก่ กระดาษ น้ำตาล และข้าว ขณะที่ทาจิกิสถานเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย และสามารถเป็นแหล่งนำเข้าวัตถุดิบที่สำคัญต่อการผลิตของไทย อาทิ สินค้าฝ้าย ทองคำ เงิน และอลูมิเนียม

 

 

 

โดยการหารือครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ย้ำถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทยในการกระชับความสัมพันธ์ในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการค้ากับต่างประเทศ ทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ โดยใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก และผลักดันการส่งออก ซึ่งการเพิ่มพูนการค้าและความร่วมมือระหว่างไทยกับทาจิกิสถาน จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของแต่ละฝ่ายท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและความขัดแย้งในโลกปัจจุบัน นอกจากนี้ ได้เชิญชวนภาคธุรกิจของทาจิกิสถานเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ อาทิ งานแสดงสินค้านานาชาติ กิจกรรมเจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ และการลงทุนภายใต้โครงการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อใช้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายการค้าและการลงทุนในอาเซียน ทั้งนี้ ทาจิกิสถานได้แจ้งว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของไทยและภูมิภาคอาเซียน จึงมีแผนจะก่อตั้งสถานเอกอัครราชทูตทาจิกิสถาน ณ กรุงเทพฯ ในปี 2569 พร้อมทั้งเชิญชวนให้องค์การคลังสินค้าพิจารณาจัดตั้งคลังสินค้า (Cross Border Warehouse) ในทาจิกิสถาน เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าโดยตรงจากไทย และการกระจายสินค้าไทยในภูมิภาคดังกล่าว

 

 

 

ทั้งนี้ ทาจิกิสถาน เป็นคู่ค้าอันดับ 5 ของไทย ในภูมิภาคเอเชียกลาง โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับทาจิกิสถาน มีมูลค่า 3.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ กระดาษและผลิตภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป ตู้เย็น และตู้แช่แข็ง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ฝ้าย และอลูมิเนียม

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube