fbpx
Home
|
ข่าว

“สมศักดิ์”แจงระเบียบราชทัณฑ์ไม่เอื้อใครปัดตอบ”ทักษิณ“เครียด

Featured Image

 

 

 

“สมศักดิ์” ร่ายยาว แจงระเบียบราชทัณฑ์คุมขักนอกเรื่องจำ ออกมาตั้งแต่ปี 60 ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ชี้ มีนักโทษได้ประโยชน์กว่าหมื่นคน ไม่ได้เอื้อใคร ปัดตอบ”ทักษิณ“ เป็นโรคเครียด

 

 

 

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงภายหลังมีชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ เรือนจำ เรื่องการคุมขังนอกเรือนจำว่า เป็นพรบ.กรมราชทัณฑ์ 2560 ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ถือเป็นกฎหมายที่ดี จนมาถึงการเลือกตั้งปี 2562 ที่ตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีการออกกฎกระทรวงในมาตรา 33 พรบ.ราชทันฑ์ ปี 2560 เรื่องการจำแนกผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังโดยดูในเรื่องพฤติกรรมผู้ต้องขัง พยาบาลจนถึงการรักษาพยาบาล เตรียมพร้อมตลอดจนการเตรียมความพร้อมปล่อยตัว ในปี 2563

 

 

 

 

ต่อมามีอดีตข้าราชการและคณะกรรมการสิทธิฯ หารือขอให้มีที่คุมขังนอกเรือนจำกับผู้ต้องขัง หรือผู้ที่ผู้ที่ถูกกล่าวหาอยู่ในเรือนจำที่ไม่ควรจะเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ซึ่งตนก็เห็นด้วยจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมและคณะทำงานดำเนินการเรื่องนี้ แต่ยังไม่แล้วเสร็จตนก็ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีก่อน แต่เรื่องนี้มีคนถามตนเข้ามาเยอะ อย่างในวันนี้วิปวุฒิสภา ก็เชิญตนเองมาชี้แจง ซึ่งวันนี้วุฒิสภาให้ตนเองมาชี้แจงเนื่องจากเป็นกฎหมายที่ดี ในการเข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้ต้องขังให้เป็นไปตามหลักสากล ดังนั้นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่งหรือไม่ขอบอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นกระบวนการยุติธรรมซึ่งทำตามกรอบสากล เช่นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ คุมขังที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำการจำแนกผู้ต้องขัง ซึ่งคุมขังที่อื่นที่เรือนจำที่ไม่ใช่เรือนจำ เป็นกฎหมายที่สากลดำเนินการและสามารถทำได้ แต่ต้องเข้าเกณฑ์ ส่วนการจำคุกจากคดีร้ายแรง เช่น ฆ่า ยาเสพติด จะไม่ถูกนำมาพิจารณากับระเบียบใหม่

 

 

 

 

 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้เป็นเรื่องที่ดี ที่อดีตนายกรัฐมนตรีถูกคุมขัง จะทำให้สังคมเข้าใจและเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจและอธิบายทัณฑวิทยา ได้อย่างดียิ่ง และในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้ไปล่วงลูก ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเกณฑ์ เพราะโทษไม่เกิน 4 ปี ไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายน่ากลัวของสังคม เช่น โทษฆ่าข่มขืน ซึ่งจำเป็นต้องถูกคุมขังในเรือนจำ หากเป็นโทษที่ไม่เป็นภัยต่อสังคมในระบบสากลสามารถคุมขังนอกเรือนจำได้ รวมถึงเหลือโทษน้อย

 

 

 

 

ส่วนที่มีการมองว่าการออกระเบียบราชทัณฑ์เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณนั้น นายสมศักดิ์ เลี่ยงที่จะตอบคำถาม แต่บอกว่ากฎหมายเขียนได้ดี หากใช้ถึงระยะเวลา 5 ปี ตามมาตรา 43 สามารถแก้ไขได้

 

 

 

 

นายสมศักดิ์ ยังปฏิเสธว่า ไม่ได้ออกระเบียบรองรับรองรับการย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะถ้าคิดจะเข้าพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น คงทำเสร็จไปแล้ว พร้อมย้ำว่า เป็นพัฒนาการของกฎหมาย แต่เข้าทางคนที่มีโทษน้อย แต่คนที่มีโทษน้อยและมีประโยชน์ต่อสังคม สมควรที่มีส่วนรวมจะได้เข้าใจ และเมื่อถามย้ำว่า มีการต่อรองตำแหน่งเข้าพรรคเพื่อไทยแลกกับข้อมูลการออกระเบียบนี้ นายสมศักดิ์ ย้ำว่า เป็นพัฒนาการของกฎหมายที่เขียนเมื่อปี 2560 ที่ต้องทำให้ครบในการบริหารโทษ การจำแนกผู้ต้องขัง การรักษาพยาบาล หรือการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว พร้อมยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีอำนาจใหญ่กว่าศาล และขณะนั้นไม่ได้คิดว่าจะไปอยู่พรรคไหน แต่กฎหมายพัฒนาเข้าสู่ความเป็นสากล และสามารถเปิดเผยได้ว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยและ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่มาหารือเรื่องนี้เป็นใครแต่ยังไม่ไม่เปิดเผย

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า การออกระเบียบฉบับนี้ เป็นโอกาสของประเทศ และโชคดีที่มีเคสสำคัญ ทำให้คนสนใจ ซึ่งถ้าอธิบายจะทำให้เข้าใจได้ดีมาก แต่ตนไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงที่จะอธิบาย แต่วันนี้เห็นมีชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้องจึงต้องพูดให้สังคมเข้าใจ พร้อมกันนี้ นายสมศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่าการออกระเบียบในครั้งนี้ มีกลุ่มคนที่จะได้รับการพิจารณากว่าหมื่นคน

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์กล่าวถึงการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจของนายทักษิณ ที่มีกำหนด 30 วัน 60 วัน 120 วัน เป็นเรื่องของแพทย์และอำนาจผู้บัญชาการเรือนจำ อธิบดี ไปจนถึงรัฐมนตรี ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขในวันนี้มีนักโทษที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่า 30 วันเกือบ 150 คน ไม่ได้มีคนเดียวและที่อยู่ใน 120 วัน ที่ผ่านมา มีหลายคนแต่ไม่ได้มีการเปิดเผย แต่เพราะนายทักษิณเป็นบุคคลสาธารณะที่ถูกจับจ้อง ข่าวออกมาจึงเป็นเรื่องที่ดีมาก จะได้ทำความเข้าใจกับสาธารณะ

 

 

 

 

ส่วนจะแปลกหรือไม่ที่ขณะอยู่ต่างประเทศนายทักษิณดูแข็งแรง แต่พอกลับมาถึงไทยกลับป่วยจนต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล นายสมศักดิ์ ตอบกลับว่า “ น้องต้องลองถูกคุมขังสักสองสามวัน ชีวิตมันเครียดถ้าจะต้องเสียอิสรภาพ ลองเข้าไปซักคืนสองคืนจะนอนไม่หลับ คนอายุมาก มีความดัน ป่วย เป็นความเสี่ยงที่ผู้บัญชาการเรือนจำหรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์จะคุมขังไว้ ทุกคนต้องการความปลอดภัยไม่ต้องรับผิดชอบมาก เมื่อเกิดขึ้น จึงมีเหตุผลที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ต้องขังมีความปลอดภัยมากที่สุด“

 

 

 

นายสมศักดิ์ ยังย้ำว่า ใครไม่เคยนอนคุก ติดคุก ถูกจองจำ ลองไปสักคืนสองคืนมันเครียด ความเครียดเป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บ จึงไม่สมควรที่จะกระทำแบบนั้น เพราะเรามีหนทางในการแยกแยะ ผู้คุมขังก็ต้องทำตามกฏหมายให้ครบถ้วน ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็อาจมีส่วนที่ในการให้ข้อมูลน้อย จึงเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้สาธารณะเข้าใจ

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงโรคเครียดว่าเป็นต้นเหตุของโรคอื่น และทำให้นอนไม่หลับ พร้อมยกตัวอย่างว่า เช่น เป็นหวัด นอนไม่พอก็จะป่วย แล้วยังมีพีเอ็ม 2.5 ซึ่งตนยังเป็นเลย แล้วยิ่งคนที่อยู่ในเรือนจำเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ และผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สาเหตุที่กรมราชทัณฑ์ส่งนายทักษิณเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเบื้องต้นเกิดจากสาเหตุโรคเครียดใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถามแบบนั้น ก็ไม่ได้ ตนแค่ยกตัวอย่างว่าคนเครียดจะทำให้เป็นโรคต่างๆ ตนรับฟังข้อมูลจากหมอ แต่เมื่อสื่อถามก็ยกตัวอย่างให้ฟัง ส่วนจะมีโอกาสเปิดเผยโรคของนายทักษิณหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ตนพูดในแง่วิชาการเพื่อเป็นการรับรู้ในทางสาธารณะ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube