fbpx
Home
|
ข่าว

สภาถกแก้หนี้ครัวเรือน “กิตติศักดิ์” ชี้ต้องลดภาระค่าใช้จ่ายปชช.

Featured Image
สภาถกแก้หนี้ครัวเรือน “กิตติศักดิ์” ชี้ต้องลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน จี้รัฐดูแลนายทุนเงินกู้ไม่ให้ซ้ำเติมประชาชน

 

 

 

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษวันนี้ (20 ต.ค.) มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม หลังเปิดให้สมาชิกได้การปรึกษาหารือในประเด็นความเดือดร้อนของประชาชน จากนั้น ได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายญัตติการตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน ที่เสนอโดยนายอนุชา บูรพชัยศรี สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ สมาชิกได้สลับกันอภิปรายโดยส่วนใหญ่ สนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยนายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนญัตติหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาที่ใหญ่และสำคัญกับระบบเศรษฐกิจของไทย ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนขยายตัว 11.5% คิดเป็นมูลค่าหนี้ต่อครอบครัว 559,000 บาทต่อครัวเรือน 80% เป็นหนี้ในระบบ และ 20% เป็นหนี้นอกระบบ โดยหนี้ครัวเรือนมียอด 16 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90%ของ จีดีพีในประเทศไทย อยู่ที่ 17.4 ล้านล้านบาท ถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ของประเทศไทย ไม่ใช่เพียงหนี้ครัวเรือนยังพบว่าหนี้ภาครัฐก็สูงเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตนเห็นใจรัฐบาลชุดปัจจุบันที่เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศครบ 1 เดือนเพราะต้องเข้ามารับโจทย์ใหญ่ แต่มั่นใจว่า รัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

 

 

 

 

 

นายกิตติศักดิ์ ยังกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน สิ่งสำคัญ คือการลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ปัจจุบันรัฐบาลลดราคาพลังงาน ทั้งค่าไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และยังมีโครงการพักชำระหนี้เกษตรกร นอกจากนี้ต้องเร่งแก้ไขปัญหากลไกทางการเงิน ซึ่งสถาบันการเงิน ต้องช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาหนี้สิน รัฐบาลต้องดูแลนายทุนเงินกู้ไม่ให้ซ้ำเติมประชาชน และต้องเพิ่มรายได้ เช่น การยกราคาสินค้าทางการเกษตร ทำให้พ่อค้าในตลาดก็สามารถขายของได้เกิดการจ้างงาน โรงงานก็ผลิตของเพิ่ม ส่งผลเพื่อให้รัฐบาลมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น ทำให้รัฐบาลมีเงินงบประมาณในการมาทำโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั้งระบบ

 

 

 

 

 

ดังนั้น ขอให้กำลังใจรัฐบาลที่ต้องแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบ สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้แล้วเศรษฐกิจจะดีและหวังว่าประเทศไทยจะหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้น้อย ไปสู่รายได้ปานกลาง หรือรายได้มากและให้ประชาชนหมดหนี้สินและตั้งตัวได้

 

 

 

 

 

 

ด้านนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่าสนับสนุนให้มีการตั้ง กมธ. เพราะหนี้สินครัวเรือนที่เกิดจากประชาชนกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ มาใช้จ่าย ซึ่งตอนนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและเป็นสิ่งที่กังวลมากยิ่งขึ้น มีปัจจัยมาจากรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ราคาสินค้าแพง การขาดความรู้และวินัยทางการเงิน รวมถึงมีความต้องการความจำเป็นในการใช้จ่ายทำให้ประชาชนต้องกู้หนี้ยืมสินมากขึ้น ขณะเดียวกัน ชำระหนี้น้อยลง จนเป็นหนี้เสีย เป็นหนี้ที่ไม่อาจสร้างรายได้

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีหนี้ ครัวเรือนสูงถึง 37% คิดเป็น 25 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรไทย และในปี 2566 ไทยมีหนี้สินครัวเรือน 16 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90% ของจีดีพี ซึ่งอยู่ในขั้นอันตรายและติดอันดับต้นต้นของโลกประกอบกับมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก

 

 

 

 

 

 

ดังนั้น เมื่อมีปัญหาหนี้สินตามมา ก็ทำให้เกิดปัญหาสังคมและยังฉุดรั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ หลายคนเปรียบเทียบว่า หนี้ครัวเรือนคือระเบิดเวลาของเศรษฐกิจไทย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งป้องกันโดยใช้กลไกของสภาในการศึกษาโดยตนมี 3 ข้อเสนอแนะ คือ 1. สร้างภูมิคุ้มกันตระหนักรู้ทางการเงินให้ประชาชนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดระเบิดหนี้สินครัวเรือน โดยการส่งเสริมการเพิ่มพัฒนาทักษะด้านต่างๆ โดยเฉพาะการประกอบการสร้างรายได้หลักรายได้เสริมและการสร้างอาชีพที่มั่นคง 2. หามาตรการที่ช่วยควบคุมการก่อหนี้ ลดหนี้และปลดหนี้ 3. การเพิ่มการกระจายรายได้ ลดรายของครัวเรือน เพื่อกอบกู้และทำลายระเบิดหนี้สิน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube