fbpx
Home
|
ข่าว

“จุลพันธ์” รับสิทธิ์ดิจิทัล1หมื่นต้องยืนยันตัวตน

Featured Image
“จุลพันธ์”รับสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ต้องยืนยันตัวตน พร้อมเตรียมเปิดลงทะเบียนร้านค้ากลาง พ.ย.นี้

 

 

 

 

นายจุลพันธ์อมร วิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดความคืบหน้า นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ว่า จะต้องเปิดให้มีการลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการ เพราะต้องมรการ ยืนยันตัวตน หรือ ที่เรียกว่า KYC ซึ่งโชคดีที่โครงการในอดีตของรัฐ มีการทำระบบยืนยันตัวตนเอาไว้ ประชาชนที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้วประมาณ 40 ล้านคน

 

 

 

ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน แต่หากจะเข้าร่วมนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จะต้องมีปุ่มให้กด ยืนยันว่าจะเข้าร่วมโครงการ หากใครที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน ซึ่งมีประมาณ 10 ล้านคน จะต้องยืนยันตัวตนก่อน เพราะมีกฎหมายทางธนาคารแห่งประเทศไทย และกฎหมายอื่นๆ กำหนดไว้

 

 

 

นายจุลพันธ์ ระบุว่า การยืนยันตัวตน เพื่อตรวจสิบบุคคลที่ได้รับสิทธิ์ กับเลขบัตรประชาชน เป็นบุคคลนั้นจริงๆ รวมทั้งจะต้องมีการสแกนใบหน้า เพราะเป็นเรื่องของการรับเงิน ซึ่งจะต้องมีความรัดกุม และเป็นไปตามกฎหมาย

 

 

 

ส่วนการลงทะเบียนจะทำให้ จำนวนคนที่เข้าร่วมโครงการลดลงหรือไม่ รมช.คลัง ยืนยันว่าไม่เกี่ยว เพราะคนที่จะลงหรือไม่ลงทะเบียน จะเป็นข้อมูลที่ทราบภายหลังอยู่แล้ว ซึ่งการทำโครงการต้องมีการการวงเงินไว้ให้เพียงพอ แต่การยืนยันตัวตนลงทะเบียนเป็นกระบวนการปกติ เพราะในอดีตโครงการของรัฐหลายโครงการ เปิดมาเพื่อให้ประชาชน ลงทะเบียนทั่วประเทศ ก็ไม่ได้มีคนมาใช้สิทธิ์ครบทั้ง 70 ล้านคน นโยบายครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าหากดำเนินโครงการไปแล้ว ตัวเลขอาจจะลดลง บางส่วน ส่วนจะลดลงมากแค่ไหนต้องไปดูความชัดเจนอีกครั้ง

 

 

ส่วนร้านค้าก็จะต้องมีการลงทะเบียนเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้ร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนได้ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส่วน Application ที่จะนำมาใช้ในนโยบายนี้ ยืนยันว่าจะเป็น Application ใหม่

 

 

 

ขณะที่มีกระแสข่าวว่ากระทรวงการคลังจะมีการขายหุ้นของ รัฐวิสาหกิจเพื่อนำเงินมาทำนโยบายนี้ ยืนยันว่า ไม่มีความคิด ไม่ได้เกี่ยวกับโครงการ ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่

 

 

 

ส่วนที่มาของแหล่งเงิน ยืนยันว่า รัฐบาลวางเป้า จะใช้งบประมาณ เป็นหลัก ซึ่งตอนนี้มีตัวเลือกให้รัฐบาล ยืนยันว่าจะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด และมีความเหมาะสมที่สุด ขณะนี้ งบประมาณปี 2567อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่ของบประมาณ ยืนเข้ามา ซึ่งต้องดูว่าโครงการไหนที่ไม่มีความจำเป็น หรือดำเนินการไม่ทัน หรือโครงการไหนที่สามารถลดได้ จะต้องมีการปรับลด ส่วนเงินที่เหลือมา ก็ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาและลงทุน ในโครงการที่มีความจำเป็นต่อไป

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube