“อนุทิน” ฟังเสียงปชช. ยังไม่เปิดด่าน ยันตั้งใจแก้ รธน.
“อนุทิน” ยังไม่เปิดด่านไทย-กัมพูชา รอฟังเสียงประชาชน ย้ำไม่ยอมให้ไทยเสียเปรียบ พร้อมแถลงนโยบายเร่งด่วนต่อสภา แก้ชายแดน-ปากท้อง-คนละครึ่ง ผลงานรูปธรรมแน่นอน ยัน ตั้งใจจริงแก้ รธน. ดึง “บวรศักดิ์” ช่วยงาน มั่นใจประชามติครั้งแรกทันกรอบ 4 เดือน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ จะต้องพิจารณาข้อตกลงด้านการทหารและความปลอดภัยหลายด้านก่อน โดยเฉพาะการถอนอาวุธหนักและการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนทั้งสองฝั่ง พร้อมระบุว่า เรื่องการเปิดด่านต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไทยเป็นหลัก และต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ทั้งนี้ หากมีโอกาสพบกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะไม่หมายความต้องยอมทุกเรื่อง แต่เป็นช่องทางเจรจาหาข้อสรุปในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยย้ำหนักแน่นว่า จะไม่ยอมให้ประเทศไทยเสียเปรียบเรื่องอธิปไตยหรือความปลอดภัย ทั้งยังฝากงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปดำเนินการเรื่องการถอนอาวุธและการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวทางที่ปลอดภัยและเป็นระบบ
ส่วนการลงพื้นที่รับฟังประชาชนในพื้นที่ชายแดน นายอนุทินกล่าวเชิงกึ่งตลกว่า ตนขยันลงพื้นที่มาตลอด พร้อมยืนยันว่า “ลงพื้นที่แน่” เพื่อรับฟังความกังวลของประชาชนจริงจัง ขณะที่เรื่องกรอบเวลา 4 เดือนสำหรับรัฐบาลชุดนี้ นายกฯ ระบุว่า จะใช้อำนาจที่มีอย่างเต็มที่ แต่ความสำเร็จขึ้นกับสถานการณ์จริงและข้อจำกัดทางบริบท
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับว่าที่รัฐมนตรี เพื่อเตรียมจัดทำคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการเร่งรัดให้การทำงานสอดคล้องตามข้อตกลง (MOA) ที่กำหนดให้ยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย จึงต้องจัดทำร่างนโยบายให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว พร้อมส่งเรื่องให้ประธานรัฐสภาเปิดประชุมทันที เพื่อไม่ให้เกิดการยื้อเวลา
นายอนุทิน ระบุว่า นโยบายเร่งด่วนที่เตรียมไว้มีทั้งการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา การจัดทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงโครงการ “คนละครึ่ง” ที่จะหยิบมาปัดฝุ่นอีกครั้ง แม้จะเป็นนโยบายสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่หากยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็พร้อมเดินหน้าต่อ
โดยย้ำว่า การปรับปรุงโครงการให้ครอบคลุมผู้เสียภาษีมากขึ้น จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ประเทศควบคู่ไปกับการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
ส่วนคำถามว่ารัฐบาล 4 เดือนนี้จะมีผลงานเชิงรูปธรรมหรือไม่ นายกฯ ยืนยันว่า “ผลงานต้องมีแน่นอน” โดยเชื่อมั่นในทีมงานและความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมปฏิเสธว่าการทำงานภายใต้ MOA ไม่ใช่แรงกดดัน แต่เป็นข้อตกลงที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันอยู่แล้ว
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวพาดพิงไปถึงรัฐบาลก่อนหน้าที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ว่า การยัดเยียดนโยบายของพรรคแกนนำ โดยไม่ฟังเสียงพรรคร่วม ทำให้การทำงานสะดุดและขาดเอกภาพ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะเน้นการมีส่วนร่วมและรับฟัง เพื่อให้ทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลก้าวไปด้วยกันในทิศทางเดียว
นายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดนี้จะบริหารประเทศด้วยความรวดเร็วและตรงไปตรงมา ไม่ถ่วงเวลา และเดินหน้าสู่การยุบสภาตามข้อตกลง โดยยืนยันว่า ทุกอย่างจะเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรอบระยะเวลาทำงาน 4 เดือน จะทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทันหรือไม่ ว่า ตามระบบทันอยู่แล้ว แต่ต้องปรึกษาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการยุบสภา ซึ่งหากทำประชามติให้ทันพร้อมยุบสภา จะทำให้ประหยัดงบประมาณด้วย และพอเป็นประชามติ รัฐบาลต่อไปเข้ามาก็จะใช้อ้างอิงเพื่อสามารถดำเนินเรื่องต่อไปได้
ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ประชาชนแก้รัฐธรรมนูญได้โดยตรง นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งลงรายละเอียด ซึ่งตนได้เชิญนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ มาช่วยทำงาน แสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้พูดไปอย่างนั้น แต่ตั้งใจเชิญนักกฎหมาย และผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาช่วยทำงานในรัฐบาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





