fbpx
Home
|
ภูมิภาค

กระแสมันม่วงมาแรงราคาสูง 200 ต่อกิโล

Featured Image
กระแสมันม่วงมาแรงราคาสูง 200 ต่อกิโล 3 ปีติดแล้ว เกษตรกรเร่งขยายฐานการปลูก หวังแบ่งโควต้าตลาดส่งออก

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสมันม่วง หรือมันเทศเนื้อสีม่วงขณะนี้ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากจากตลาดหลายๆประเภท ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ราคามันม่วงพุ่งสูงต่อเนื่องติดต่อกันมา 3 ปี แล้ว อย่างเช่นนายวิวัฒน์ ศรีกระสัง วัย 37 ปี ชาวบ้านตำบลเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา

 

ซึ่งปลูกมันม่วงมานานเกือบ 10 ปี ขณะนี้กำลังลงทุนเช่าพื้นที่ขยายฐานการเพาะปลูกไปในหลายจังหวัด เพื่อผลิตมันม่วงป้อนตลาดอย่างเต็มความสามารถนับร้อยไร่ เนื่องจากมองว่าตลาดมันม่วงจะยังไปได้ไกลและมีโอกาสที่จะแบ่งโควต้าจากประเทศอื่นๆที่ผลิตมันม่วงส่งออกมาก่อนหน้านี้ได้

 

นายวิวัฒน์ฯ บอกว่า มันเทศที่ตนเองปลูกอยู่นั้น เป็นตระกูลมันม่วง ซึ่งกระแสของการนำไปแปรรูปหรือรับประทานหัวสดกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากจากตลาด ซึ่งก็มีหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ต่างประเทศ อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม เป็นต้น

 

และหากจะพูดถึงราคานั้น ปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 แล้ว ที่ราคามันม่วงพุ่งขึ้นสูง โดยเฉพาะปีนี้ราคาพุ่งขึ้นสูงสุด หน้าสวนราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 17 – 18 บาท ขณะที่ราคาขายปลีกจะสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 200 บาทเลยทีเดียว

 

ซึ่งราคาจะทรงตัวประมาณนี้ลากยาวติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว เนื่องจากตลาดกำลังมีความต้องการมันชนิดนี้สูงมาก ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

 

นายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่า กลุ่มตลาดของมันม่วงนั้นจะมีอยู่ 3 กลุ่ม คือกลุ่มตลาดทั่วไป ก็คือกลุ่มตลาดรับซื้อหัวมันตามจังหวัดใหญ่ๆ ก่อนจะนำไปกระจายขายตามที่ต่างๆ อย่างตลาดสี่มุมเมือง ตลาดเชียงใหม่

 

และแม้กระทั่งตลาดตามจังหวัดภาคใต้ที่มีความต้องการจะนำส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย เป็นต้น ต่อมาก็คือกลุ่มตลาดที่จะนำไปแปรรูป ที่ตอนนี้มีกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศที่กำลังมีความต้องการมันม่วงไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกัน

 

ส่วนอีกกลุ่มก็คือ กลุ่มตลาดที่ต้องการนำมันม่วงไปขายปลีก ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube