fbpx
Home
|
ภูมิภาค

หน.อช.ทับลานเผยไฟป่าเกิดจากน้ำมือมนุษย์

Featured Image
หน.อช.ทับลาน เผย ไฟป่าเกิดจากน้ำมือมนุษย์มากสุด เร่งระดมสรรพกำลัง-หนุนเครื่องมืออุปกรณ์เฝ้าระวังจุดเสี่ยง หวั่นเอลนิโญ

 

 

 

นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวถึงมาตรการรับมือไฟป่าในช่วงหน้าแล้งปีนี้ ว่า ทางอุทยานแห่งชาติทับลาน จะใช้การบริหารงานเชิงพื้นที่ในการรับมือสถานการณ์ไฟป่า ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ให้หัวหน้าป่าอนุรักษ์ฯ แต่ละพื้นที่ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคสนาม มีอำนาจบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาไฟป่า

 

 

โดยสามารถออกคำสั่งระดมหน่วยงานในพื้นที่เข้าให้ความช่วยเหลือ เช่น หน่วยไฟป่า สถานีควบคุมไฟป่า หน่วยต้นน้ำ หรือแปลงปลูกป่าตามโครงการในพระราชดำริฯ ที่มีอัตรากำลังของกรมอุทยานฯ และของกรมป่าไม้ ให้เข้ามาปฏิบัติงานร่วมกันควบคุมแก้ไขปัญหาไฟป่าได้ ทำให้การดำเนินงานรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้ประสานความร่วมมือกันแล้ว เพื่อดำเนินมาตรการป้องกันเชิงรุก

 

 

โดยแนวทางขั้นต้นในตอนนี้ คือ การทำ “แนวดำ” เพิ่มเติมจากแนวกันไฟปกติ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงสะเก็ดไฟปลิวข้ามแนวกันไฟไปลุกลามในพื้นที่อื่นๆ โดยจะทำแนวดำขยับลึกเข้าไปในป่าอีกประมาณ 50 เมตร แล้วทำการเผาเพื่อกำจัดเชื้อเพลิงในบริเวณนี้ก่อนจะถึงแนวกันไฟ ซึ่งหากมีสะเก็ดไฟปลิวข้ามแนวกันไฟมา ก็จะไม่ลุกลามเพิ่ม จะนำวิธีการนี้มาใช้สำหรับการป้องกันไฟจากพื้นที่การเกษตร ลามเข้ามาในแนวเขตป่า พร้อมกันนี้ ได้จัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ฯและอาสาสมัครเข้าไปคอยเฝ้าระวังประจำจุดเสี่ยง

 

 

เพื่อตรวจตราชาวบ้านที่จะเข้ามาลักลอบจุดไฟเผาเพื่อหาของป่า เช่น การจุดไฟเผาเพื่อให้ผักหวานป่าแตกยอด หรือจุดไฟเผาเพื่อจะเอาไข่มดแดง เป็นต้น ซึ่งตอนนี้กำลังระดมรับสมัครทีมฯ เพิ่มอีกประมาณ 20 คน เพื่อให้ช่วยเฝ้าระวังตรวจตราจุดเสี่ยงและให้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้าน-ผู้นำชุมชน เพื่อขอความร่วมมือช่วยกันป้องกันไฟป่าไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือที่จะนำมาใช้ป้องกันควบคุมไฟป่า ก็ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกลุ่ม NGO หรือเครือข่ายกลุ่มอาสาพิทักษ์ป่า ซึ่งกำลังระดมวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นมาให้

 

 

ส่วนกรณีไฟไหม้ป่านครนายก เชื่อว่า น่าจะใช้หลักการเฝ้าระวังและป้องกันในลักษณะเดียวกัน ทางอุทยานแห่งชาติทับลานก็เคยเกิดสถานการณ์ไฟป่าไหม้รุนแรงคล้ายกันมาแล้วเมื่อปี 2563 ต้องระดมสรรพกำลังทุกช่องทางมาช่วยเหลือ และแม้ว่าไฟไหม้ป่านครนายก ในคราวล่าสุดนี้ เปลวไฟจะไม่ได้ลุกลามหรือมีสะเก็ดไฟปลิวข้ามเขตมาถึงเขตป่าทับลาน แต่ก็ต้องวางกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกนาย สแตนด์บายเฝ้าระวังตรวจตรากันอย่างใกล้ชิด เพราะพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน มีพื้นที่อยู่กว่า 1 ล้าน 4 แสนไร่ และอยู่ในเขตจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 1 ล้าน 2 แสนไร่

 

 

ก็ต้องวางกำลังเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 อุทยานแห่งชาติทับลาน เกิดไฟ จำนวน 12 ครั้ง เสียหายไป 173 ไร่ และจากการวิเคราะห์สาเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในเขตอุทยานฯ ฝั่งจังหวัดนครราชสีมา พบว่า เกิดจากการเผาเพื่อเอาของป่ามากสุด ซึ่งเป็นวิธีการโบราณที่ชาวบ้านมักจะทำสืบกันมา

 

 

แต่ปัจจุบันก็พบการลักลอบเผาน้อยลง ทางเจ้าหน้าที่ ก็พยายามเข้าไปพูดจาทำความเข้าใจชาวบ้านเกี่ยวกับข้อกฎหมาย เพราะแม้ว่ากฎหมายอุทยานฯ ฉบับใหม่จะอนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปหาของป่าได้ในบางพื้นที่ แต่ก็ต้องรอดูกฎหมายลูกที่จะออกมาด้วย ว่า จะกำหนดวิธีการเข้าไปเอาของป่าอย่างไรไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งกฎหมายลูกจะต้องล้อมกรอบกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน

 

 

เพราะนอกจากไฟป่าจะเกิดจากน้ำมือมนุษย์แล้ว ยังมีปัจจัยทางธรรมชาติด้วย อย่างเช่น ปรากฏการณ์เอลนิโญ ที่ส่งผลอย่างมากทำให้เกิดคลื่นความร้อนและภัยแล้งเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะป่าทับลาน จะมีต้นไผ่ขึ้นแซมป่าธรรมชาติเป็นจำนวนมาก และในช่วงหน้าแล้ง ไผ่มักจะยืนต้นตาย จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เมื่ออากาศมีความชื้นต่ำ จึงทำให้ต้นไม้ที่ต้องการความชื้นมากๆ เพื่อจะเจริญเติบโต จึงไปต่อไม่ไหวล้มตายลง ต้นไผ่จำพวกไผ่หลอดจึงขึ้นแซมขึ้นมาจำนวนมาก และสัตว์ป่าจะกินไผ่หลอดตอนลำต้นอ่อนๆ เท่านั้น เมื่อไผ่แก่แล้ว ก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังไฟป่ากันอย่างเข้มข้น

 

 

โดยจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ก็จะอยู่ใกล้กับพื้นที่ป่าที่เปิดให้ชาวบ้านเข้ามาทำกิน เช่น บริเวณเขาคอกช้าง ใกล้กับวัดจอมทอง บ้านคอกช้าง หมู่ 11 ตำบลครบุรีใต้ อำเภอครบุรี เป็นจุดที่เกิดไฟป่าขึ้นบ่อยครั้ง และดับได้ยากเพราะมีความสูงชัน ส่วนในอำเภอเสิงสาง จะเป็นป่าแถวบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 1

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube