fbpx
Home
|
ภูมิภาค

คืบบิ๊กโจ๊กติดตามความคืบหน้าปัญหาเกาะหลีเป๊ะรอบ 2

Featured Image
คืบบิ๊กโจ๊กลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าปัญหาเกาะหลีเป๊ะรอบ2 ที่สตูล ขณะพบมีเอกชนบุกรุก 5 ราย

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะจังหวัดสตูลพร้อมคณะลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะจ.สตูลติดตามความคืบหน้า

 

 

โดยคาดโทษเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทุกระดับชั้นโดยเฉพาะในแนวทางการแก้ปัญหาหาพื้นที่ลำรางเส้นทางน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมบนเกาะหลีเป๊ะให้แล้วเสร็จโดยมุ่งเป้าในการแก้ปัญหาไปที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูลและปลัดส่วนหน้าเกาะหลีเป๊ะที่ต้องจัดการแก้ปัญหานี้ให้ได้หากไม่ได้ถือเป็นการละเว้น

 

พร้อมกันนี้ได้แจ้งความคืบหน้าของการลงตรวจแนวเขตของกรมธนารักษ์รอบโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะและสถานีอนามัยเกาะหลีเป๊ะพบว่ามีการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวจริงจากการเทียบแผนที่เดิมเมื่อมีการสำรวจในปีพุทธศักราช2533พบว่ามีเอกชนบุกรุกจำนวน5รายเป็นโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะจำนวน4รายและสถานีอนามัยบ้านเกาะหลีเป๊ะจำนวน1รายโดยวันนี้ทางเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสตูลได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อสภ.หลีเป๊ะแล้ว

 

ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองและปลัดอำเภอรวมทั้งตำรวจเร่งเจรจาให้เอกชนเปิดรั้วโรงเรียนที่เคยเป็นข้อพิพาทหลังการพิสูจน์ของคณะทำงานยุติแล้วว่าเอกชนบุกรุกทับที่ของโรงเรียนให้เร็วที่สุดหลังมีการแจ้งความ

 

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ทิ้งประเด็นให้ฝ่ายปกครองโดยเฉพาะนายอำเภอส่วนหน้าเกาะหลีเป๊ะในการทำให้กฎหมายเป็นกฎหมายโดยเฉพาะในเรื่องของโรงแรมบนเกาะหลีเป๊ะที่มีมากกว่า100แห่งที่ยังไม่พบการจดทะเบียนซึ่งได้มอบหมายให้ไปเร่งดำเนินการหากไม่สามารถดำเนินการได้ถือเป็นการละเว้น157และคงต้องให้มีการรื้อถอนรีสอร์ตโรงแรมทั้งหมด

 

 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังบอกอีกว่าตลอด2สัปดาห์ที่ลงมาติดตามใช้หลักแนวทางการทำความจริงให้ปรากฏว่าใครทับที่ของใครเชื่อว่าหลังจากนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะดำเนินคดีต่อไปเพราะมีจุดหมายและสามารถที่จะดำเนินการจัดระเบียบตามกฎหมายได้ต่อไป

 

หลังจากนั้นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมคณะได้ลงพื้นที่แปลงที่62จากที่มีทั้งหมด8จุดที่คดีสิ้นสุดแล้วจะมีการบังคับคดีให้รื้อถอนตามที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาซึ่งคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว

 

ให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่ซึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติรายละเอียดปรากฏตามคำพิพากษาของศาลในคดีอาญาหมายเลขดำที่อ.71/2559คดีอาญาหมายเลขแดงที่อ.268/2560จึงประกาศให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่ซึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติหากไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าวอุทยานแห่งชาติตะรุเตาจะดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube