fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“ทนายตั้ม” เมินบิ๊กตร.ถอนฟ้องไร้ดีลลับ ยันฟันฟอกเงิน จ่อพบฝ่ายค้าน

Featured Image

 

 

“ทนายตั้ม”ให้ปากคำ ตำรวจ ปปป.ปมบิ๊กตร.รับส่วย ยันพรุ่งนี้ลุยเดินหน้าแจ้งความเอาผิดฟอกเงินบิ๊กต่อและภรรยา ก่อนมอบพยานหลักฐานฝ่ายค้าน ย้ำไม่มีดีลลับ

 

 

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ปปป.หลังได้มอบหลักฐานเกี่ยวกับบิ๊กตร.รับส่วย ให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.สัปดาห์ที่ผ่านมาและนัดให้ปากคำเพิ่มเติมวันนี้

 

ทนายษิทรา กล่าวว่าการเข้าให้ปากคำวันนี้จะเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินและระบุไปถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องโยงใยกันการรับส่วยตั้งแต่ระดับ พล.ต.อ.ลงไปจนถึงชั้นประทวนตามที่ตนเองได้แถลงข่าวไปกับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่าแม้ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.จะถอนฟ้องตนเองหลังจากยื่นฟ้องเพียงวันเดียวว่า ไม่เกี่ยวกันเพราะเรื่องนี้ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นฝ่ายฟ้องเอง ไม่ได้มีข้อต่อรองอะไรเกี่ยว

 

แต่ยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งที่มีการถอนฟ้องเชื่อว่าเป็นเพราะตนเองหลุดปากพูดว่าจะไปขอหมายศาลเรียกเอกสาร รวมถึงสเตจเม้นต่างๆ ทำให้อีกฝ่ายกังวลว่าตนเองจะไปเรียกหลักฐานต่างๆมาจึงมีการถอนฟ้อง พอถอนฟ้องทำให้ตนเองไม่สามารถเรียกได้โดยใช้หมายศาลได้ แต่มองว่าไม่เป็นอะไรเพราะตนเองได้ระบุกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่าจะต้องมีการเรียกทุกอย่างที่ขอไปอยู่แล้ว โดยตนเองยืนยันจะยังคงเดินหน้าต่อและจะไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยา รวมถึงบัญชีม้า ที่ สน.เตาปูน ฐานร่วมกันสมคมกันฟอกเงิน ตามที่มีหลักฐานเส้นทางการเงินที่ปรากฎหมาย และยืนยันว่าไม่มีดีลลับเพื่อให้ถอนฟ้องตนเอง

 

เพราะหากมีดีลลับจริงพรุ่งนี้ตนเองคงไม่ไปแจ้งความ แต่เรื่องนี้ตนเองเห็นว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำฝ่ายรัฐบาล ต้องเข้ามาจัดการและแก้ไขปัญหา พร้อมระบุว่า ทางผู้นำฝ่ายค้านได้มีการประสานมาขอหลักฐานเกี่ยวกับข้อมูลที่ตนเองแถลงไปทั้งหมด เพื่อช่วยในการตรวจสอบ โดยในวัยพรุ่งนี้ (1เม.ย.)ช่วงบ่าย ตนเองจะนำไปมอบให้ที่รัฐสภา

 

ส่วนคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจรับส่วยที่ได้โพสต์ไปนั้น เป็นคลิปที่มีการพูดคุบกันของทีมแม่บ้านของ ปคบ.และคอมมานโด ในการไปเก็บส่วยร้านคาราโอเกะย่านลาดพร้าว โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประมาณ้ดือนสิงหาคม ปี 2565 มีการเก็บส่วนของปคบ.ร้านละ 1,000 บาท และหน่วยคอมมานโดขอเพิ่มอีกร้านละ 1,000 แต่เก็บได้ร้านละ 500 รวมเป็นเงิน 4,500 บาท เป็นการยืนยันว่าหลักฐานที่ตนเองนำมาแฉเกี่ยวกับการเรียกรับส่วยของเจ้าหน้าที่นั้นมีอยู่จริง

 

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า สำหรับในเรื่องของความปลอดภัยในวันนี้ยังไม่มีใครมาขับขี่ตามรถของตน แต่ตนก็ยังต้องระมัดระวัง ตนไปเล่นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีนายตำรวจมากกว่า 100,000 ราย ทั้งนี้ เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ทนายตั้มได้เดินมายังบริเวณด้านหน้า ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.ท.พงศ์ปณต บัวแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. ดำเนินการสอบปากคำ และทนายตั้มได้ยื่นเอกสารหลักฐานเรื่องส่วย รวมทั้งหมด 175 รายการ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube