fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ผอ.ศูนย์ฝึกอบรมเด็กฯ ร้องขอศาลไม่รับฝากขังผัด 4 “ตะวัน-แฟรงค์”

Featured Image

 

 

 

“ป้ามล” ผอ.ศูนย์ฝึกอบรมเด็กฯ ร้องขอศาลไม่รับฝากขังผัด 4 “ตะวัน-แฟรงค์ ด้าน “พ่อตะวัน” รุดขอประกันลูกสาวอีกครั้ง หวั่นอาการวิกฤตถึงชีวิต

 

 

 

วันนี้(10 มี.ค. 67) นางทิชา ณ นคร ผู้อํานวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยนายสมหมาย บิดาของ น.ส.ทานตะวัน และ น.ส.อรวรรณ หรือแบม กับ นายนภสินธุ์ หรือสายน้ำ เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำแถลงขอให้ศาลพิจารณาไม่รับฝากขังตะวันและแฟรงค์ คดี ม.116 บีบแตรป่วนขบวนเสด็จ

 

นางทิชา กล่าวว่า ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศมีการคุมขังผู้ต้องโทษกว่า 250,000 ราย โดย 80 เปอร์เซ็นต์เป็นนักโทษเด็ดขาด ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีและไม่ได้รับการประกันตัว ต่อมามีหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงที่สุดศาลยกฟ้อง แสดงให้เห็นว่าการคุมขัง 20 เปอร์เซ็นต์ดังกล่าวเป็นการคุมขังผู้บริสุทธิ์ นอกจากนี้ตนยังอยากย้ำว่าสิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดไว้ แต่เหตุใดกลับปล่อยให้คนจำนวน 20 เปอร์เซ็นเหล่านี้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ โดยสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้ของ น.ส.ตะวัน น.ส.แบม น.ส.บุ้ง นายแฟรงค์ และนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ตั้งคำถามกับระบบที่เกิดก่อนเขาและเขาก็สงสัยในระบบเหล่านี้

 

โดย นางทิชา กล่าวต่ออีกว่า ตนมั่นใจว่าทุกคนรู้สึกว่าระบบยุติธรรมของไทยตอนนี้กำลังเดินทางเข้าสู่วิกฤติศรัทธา ดังนั้นการต่อสู้ของเด็กๆทั้งหมด เป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกอย่างเราต้องไม่อยู่เฉยและถ้าทุกคนรู้สึกว่าการอดอาหารประท้วงของพวกเขาเป็นการตัดสินใจกันเองและถ้าอยากสาปแช่งให้เด็กเหล่านี้ติดคุกและเสียชีวิต แสดงว่าคุณกำลังลดทอนคุณค่าของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าในอนาคตกฎหมายยังไม่ได้ถูกออกแบบไว้เป็นอย่างดี วันนั้นอาจเป็นชะตากรรมของลูกหลานของพวกคุณก็ได้ที่เจอกฎหมายไม่เป็นธรรม

 

ด้าน นายนภสินธุ์ หรือสายน้ำ กล่าวว่า นอกจากวันนี้ทางป้ามลจะยื่นคำแถลงต่อศาลเพื่อคัดค้านการฝากขัง ยังมีคุณพ่อของตะวันที่มายื่นขอประกัน เพราะเขาห่วงลูกสาวมาก นอนไม่หลับ และจะอยู่ฟังผลของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่

 

ทั้งนี้ภายหลังจากที่นางทิชาและบิดาของตะวันได้ยื่นเอกสารคำร้องคัดค้านการฝากขังและขอปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งหมดได้ลงมาทำกิจกรรมจุดเทียนบนขั้นบันไดหน้าศาลอาญาพร้อมร้องเพลงเเสงดาวแห่งศรัทธา โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ขอความร่วมมือให้ทั้งหมดไปจุดเทียนที่ด้านนอกบริเวณศาล แต่ต่อมาได้เคลื่อนไปยังพื้นที่อนุญาตและจุดเทียนพร้อมร้องเพลงเพื่อมวลชน

 

ขณะที่ต่อมา “น้องหยก” เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายังศาลอาญาพรัอมกับใช้ลิปสติกสีแดงเขียนลงบนเสาหน้าศาลอาญาว่า “ค”ก่อนที่มวลชนโดยรอบจะขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวและนำผ้ามาเช็ดทำความสะอาด จากนั้น “น้องหยก” ได้เดินไปยังบริเวณด้านหน้าศาลและใช้ลิปสติกแท่งเดิมเขียนลงบนพื้นปูนว่า “ศาลส้นตี…” ซึ่งมวลชนก็ได้เข้ามาห้ามปรามการกระทำดังกล่าวพร้อมเช็ดทำความสะอาดให้อีกครั้ง ก่อนที่ “น้องหยก” และเพื่อนชายจะนั่งรถยนต์ออกไป

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube