fbpx
Home
|
อาชญากรรม

รับศพหญิงไทยถูกชายมาเล ผลักตกตึก 23 ชั้น ดับ

Featured Image

 

 

 

“ปวีณา” นําพี่สาวและครอบครัวหญิงไทยถูกแฟนชาวมาเล ฆาตกรรมตัดนิ้วก่อนผลักตกตึก 23 ชั้นเสียชีวิตในประเทศมาเลเซีย รับศพที่สนามบินสุวรรณภูมิ วอนลงโทษถึงที่สุด

 

 

 

 

วันนี้(10 มี.ค. 67) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นําพี่สาวและญาติรับศพ ลูกสาวอายุ 32 ปี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังถูกแฟนชาวมาเลเซียทำร้ายร่างกายก่อนผลักตกจากอาคารสูง 23 ชั้น เสียชีวิตที่ประเทศมาเลเซีย

 

พี่สาว ผู้เสียชีวิตเล่าว่า น้องสาวทํางานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.เบตง จ.ยะลา และพบเจอกับฝ่ายชายซึ่งเป็นชาวมาเล ต่อมาได้คบหาดูใจกันประมาณ 2 เดือน ก่อนฝ่ายชายชักชวนไปอยู่ด้วยที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งน้องสาวมีการเดินทางไปมาระหว่างมาเลเซียกับประเทศไทย กระทั่งล่าสุดก่อนเกิดเหตุน้องสาวเดินทางกลับไปที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะมาทราบข่าวจากเพื่อนน้องสาวในประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ น้องสาวถูกฆาตกรรม

 

โดยฝ่ายผลักตกตึกเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมฝ่ายชายเอาไว้ได้ เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีพยานได้ยินเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงและสามารถบันทึกวิดีโอพร้อมเสียงกรี๊ดร้องขณะที่น้องสาวตกตึก เบื้องต้นทราบว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุตํารวจพบมีการตัดนิ้วของน้องสาวก่อนผลักตกตึกหล่นอยู่ในห้องเกิดเหตุอีกด้วย

 

โดยพี่สาว ของผู้เสียชีวิต กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นได้รับข้อมูลจากคนไทยที่พักอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียมาว่า ฝ่ายชายที่ก่อเหตุฆาตกรรมน้องสาวของตนเองนั้น เคยมีการก่อเหตุในลักษณะนี้กับอดีตแฟนสาวมาแล้วครั้งหนึ่งในห้องเดียวกันแต่ครั้งนั้นไม่ถูกดําเนินคดี ซึ่งตนอยากขอให้มีการดําเนินคดีจนถึงที่สุดเพราะไม่อยากให้มีเหยื่อรายที่ 3 อีก อย่างไรก็ตามเพื่อนในประเทศมาเลเซียยังบอกอีกว่าฝ่ายชายหรือผู้ก่อเหตุนั้นจะถูกลงโทษสูงสุดด้วยการแขวนคอตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย

 

ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า หลังทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนได้ประสานกับหน่วยงานกับ ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศเพื่อช่วยประสานกับทางการมาเลเซียขอรับร่างผู้เสียชีวิตกลับมายังประเทศไทย รวมถึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและกรมการท่าอากาศยาน ในการอํานวยความสะดวกขั้นตอนการรับร่างที่สนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากได้รับเงินบริจาคจากคนไทยในประเทศมาเลเซียที่ช่วยกันบริจาคเป็นเงินจํานวนกว่า 6 หมื่นบาท ซึ่งใช้เป็นค่าดําเนินการส่งศพกลับมาประเทศไทย ทั้งนี้ขอฝากเตือนหญิงไทยว่า ให้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับชาวต่างชาติ

 

ขณะที่บรรยากาศในการรับศพที่สนามบินเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งหลังจากนี้พี่สาวและญาติจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ต่อไป

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube