“บิ๊กโจ๊ก” เตรียมเปิดแพลตฟอร์มศูนย์ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ หลัง “ปวีณา” นําผู้เสียหายถูกหลอกทํางานต่างประเทศขอความช่วยเหลือ
วันนี้(14 พ.ย. 66) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นําผู้เสียหาย 3 คดี เกี่ยวกับการถูกหลอกชักชวนทํางานต่างประเทศของขบวนการค้ามนุษย์ เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อช่วยเหลือติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
โดยตัวแทนผู้เสียหายคดีถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมียนมา เล่าวว่า พวกตนเดินทางไปเที่ยวไม่ได้ติดต่อหรือขอไปทํางาน โดยซื้อแพ็กเกจเที่ยวเชียงตุง 3 วัน 2 คืน ในราคา 8 พันบาท เมื่อเดินทางไปถึงมีคนมารอรับที่ด่านแม่สาย บอกว่าเป็นเพื่อนของคนที่ตนติดต่อซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว หลังจากข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมา ก็ถูกยึดพาสปอร์ตและบัตรประชาชน จนสุดท้ายเขาบอกว่า “พี่ซื้อตัวน้องมาแล้ว และต้องไปทํางานที่เมืองป๊อก 2 เดือน” ซึ่งตนตอบกลับไปว่ามาเที่ยวไม่ได้มาทํางาน แต่เขาก็ยืนยันคําเดิมก่อนมีรถมารับไปที่ทํางานและมีการบังคับให้ค้าประเวณี จึงติดต่อญาติ ซึ่งญาติได้ติดต่อมายังมูลนิธิปวีณาฯ จนตํารวจเมียนมาเข้ามาช่วยเหลือออกไปได้
แต่ยังไม่สามรถส่งกลับประเทศไทย ซึ่งพวกตนเกรงจะถูกกลุ่มค้าประเวณีตามจับกลับไป จึงตัดสินใจจ้างรถจักยานยนต์ออกมา แต่สุดท้ายกลับถูกจับไปขังและทําร้ายร่างกายพร้อมกับรีดค่าไถ 3 คน รวม 5 ล้านบาท ก่อนอาศัยจังหวะหลบหนีออกมาได้แต่ก็ยังมาถูกตํารวจเมียนมาจับข้อหาลักลอบเข้าเมือง เนื่องจากตอนหนีออกมาไม่ได้หยิบเอกสารมาด้วย ส่งผลให้ต้องติดคุกนานกว่า 4 เดือน ก่อนถูกส่งตัวกลับมาในที่สุด
ด้านตัวแทนผู้เสียหาย 25 คน คดีถูกสองสามีภรรยาหลอกพาไปทำงานออสเตรเลีย เล่าว่า พ่อแม่ของตนไปทําธุระและพบกับแม่ของ น.ส.มายด์ ซึ่งเขาเล่าว่า น.ส.มายด์ เคยไปทํางานที่ออสเตรเลีย มีรายได้ดีมาก หากสนใจให้ติดต่อไป ตนสนใจและติดต่อพูดคุยกับ น.ส.มายด์ โดยเธออ้างว่ามีโควต้าจากรัฐบาลออสเตรเลีย แต่มีค่าใช้จ่าย 8 หมื่นบาท ส่วนเงินเดือนอยู่ที่ 7-8 หมื่นบาท ซึ่งตนเชื่อจึงโอนมัดจําไป 2 หมื่นบาท ก่อนจะไปบอกเพื่อนๆในหมู่บ้านและมีการบอกต่อๆกัน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้เดินทางไปทํางานตามที่ตกลง โดยมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 1.3 ล้านบาท
สําหรับเคสสุดท้ายคือคดีที่ผู้เสียหาย 10 ราย ถูกหลอกเปิดบัญชีม้า อ้างพาไปทํางานแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ที่ปอยเปต โดยตัวแทนผู้เสียหาย เล่าว่า พวกตนตกงานจึงหางานตามสื่อออนไลน์ จนพบกับนายหน้าที่อ้างจะพาไปทํางานที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และหลอกให้เปิดบัญชีจํานวน 10 บัญชี อ้างว่าไม่ใช้บัญชีม้าแต่อย่างใด แต่สุดท้ายเมื่อไปถึงกลับถูกจับไปขังในห้องเล็กๆที่อยู่ภายในบ่อนคาสิโน โดยจะเรียกให้ไปสแกนใบหน้าเพื่อทําธุรกรรมทางการเงิน จนกระทั่งธนาคารได้อายัดบัญชีและไม่สามารถทําธุรกรรมได้จึงถูกส่งกลับมา แต่เมื่อกลับมาไทยพบว่าตัวเองรวมถึงเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนมีหมายจับติดตัว
โดยหลังทราบเรื่องราวทั้งหมด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าปัจจุบันประชาชนถูกหลอกในลักษณะดังกล่าวเป็นจํานวนมาก ซึ่งทั้ง 3 คดีในวันนี้ตนจะเร่งดําเนินการติดตามผู้กระทําผิดมาลงโทษทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งนี้ตนจะเปิดแพลตฟอร์มของศูนย์ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อเข้ามาสอบถามก่อนว่างานต่างๆที่พวกเขาเห็นผ่านสื่อออนไลน์นั้นเป็นงานที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
