fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“อัจฉริยะ” ร้อง ดีเอสไอ คดีทุจริตน้ำมันไม่คืบ

Featured Image

 

 

“อัจฉริยะ” ร้อง ดีเอสไอ เปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน กรณี ทุจริตน้ำมันเชื้อเพลิง IRPC ลั่น ทำมา 6 ปี คดีไม่คืบ เจ้าหน้าที่ส่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิด

 

 

 

วันนี้ (10 พ.ย.66) ที่ ดีเอสไอ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีที่หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ของดีเอสไอ นายหนึ่ง  ส่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาคดีที่ไออาร์พีซีและนายสง่ากับพวกร่วมกันทุจริตการนำน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านทางจังหวัดระนอง โดยสร้างบริษัทปลอมที่เกาะสอง ประเทศเมียนมา  นำน้ำมันเชื้อเพลิงวนมาขายในไทยแล้วมายื่นขอเครมภาษี VAT7% สร้างความเสียหายมากกว่า 20,000 ล้านบาท โดยหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน นายนี้ ทำคดีมาแล้ว 6 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องขอให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งกรรมการสอบวินัยและเปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดเป็นชุดใหม่เพื่อเร่งรัดคดีต่อไป

 

 

 

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนมาร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเปลี่ยนตัวคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 116/2563 ทั้งหมด เนื่องจาก หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว  มีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สุจริต ประวิงเวลา และไปพบผู้ต้องหาส่วนตัว นอกจากนี้ยังถูกผู้เสียหายในคดีเหมืองทองอัคราร้องเรียน และดำเนินคดีอยู่ที่ป.ป.ช. และถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายเรงอยู่ในขณะนี้ด้วย

 

 

 

 

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า คดีนี้มีความเสียหายมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ในเรื่องของการสร้างหลักฐานเท็จนำน้ำมันไปขายยังประเทศพม่า แต่ความจริงไม่ได้มีการขายน้ำมันให้ประเทศพม่าแต่อย่างใด โดยมีการสร้างบริษัทปลอมในประเทศพม่าว่าเป็นผู้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทยผ่านจังหวัดระนองแล้วนำมาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม และเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร และสรรพสามิต รวมทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งผิดกฎหมายตามประมวลรัษฎากร

 

 

 

 

อีกทั้ง หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนรายนี้ ยังมีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สุจริตในคดีดังกล่าว เพราะมีการสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และไม่แจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มขบวนการที่สร้างหลักฐานเท็จ โดยปลอมเอกสารราชการ ซึ่งผู้ต้องหาขบวนการนี้มีการกระทำความผิดอย่างชัดแจ้ง และนายพิเชฏฐ์ มีการไปพบกลุ่มผู้ต้องหาเป็นการส่วนตัว จึงเชื่อได้ว่ามีการทำคดีนี้เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิด หรือรับโทษน้อยลง

 

 

 

นายอัจฉริยะ กล่าวเพิ่มอีกว่า ตนฝากถึงหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ว่าที่บอกว่าจะฟ้องตนคิดให้ดีๆก่อน ตนมีหลักฐานอยู่ในมือแน่นมาก ตนมีหลักฐานมากกว่านี้เยอะ รับรองว่าถ้าฟ้องตนนั้น  อาจจะเกษียณอายุราชการไม่สวยแน่นอน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube