อัยการ ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ชาวบ้านมูโนะ

สำนักงานอัยการสูงสุดลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโกดังเก็บพลุระเบิด ที่ตลาดมูโนะ

 

 

 

 

นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังเก็บพลุ ดอกไม้ไฟ ระเบิด ในพื้นที่ตลาดมูโนะ อำเภอสุไหง โก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย ได้รับบาดเจ็บ 178 ราย อาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 683 ราย รวมผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 850 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 259 ล้านบาทเศษ ว่า

 

 

 

 

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดนราธิวาส (สคชจ.นราธิวาส) และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสงขลา (สคชจ.สงขลา) ได้นำรถโมบายเคลื่อนที่พร้อมบุคลากรลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ โดยเฉพาะการคุ้มครองสิทธิทางศาลในการให้คำแนะนำรวมทั้งจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอตั้งผู้จัดการมรดกให้แก่ทายาทของผู้เสียชีวิต จำนวน 11 ราย

 

 

 

 

ซึ่งศาลได้ทำการไต่สวนและมีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว 3 ราย ไม่ประสงค์ที่จะมีการจัดตั้งเป็นผู้จัดการมรดกเนื่องจากไม่มีทรัพย์สินให้จัดการมรดก จำนวน 4 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างรอการไต่สวนของศาล ตามที่ได้กำหนดวันนัดไว้แล้ว ทั้งนี้ ยังคงมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้าใช้บริการกับรถโมบายเคลื่อนที่ของ สคชจ.นราธิวาส และ สคชจ.สงขลา อย่างต่อเนื่อง เพราะบางส่วนติดภารกิจหรือต้องประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ในแต่ละวันจึงยังไม่ได้ดำเนินการต่างๆ

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ พนักงานอัยการ สคชจ.นราธิวาส ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการฯ และได้พิจารณาจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับผู้เสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว ส่วนความเสียหายในทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเป็นเงินประมาณ 259 ล้านบาทเศษ หากคณะทำงานที่อัยการจังหวัดนราธิวาสแต่งตั้งได้พิจารณาสำนวนการสอบสวนและมีความเห็นทางคดีแล้ว จะได้มีหนังสือแจ้งสิทธิให้ผู้เสียหายมาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 44/1 ต่อไป

 

 

 

 

ทั้งนี้ ผู้เสียหายหรือทายาทของผู้เสียชีวิตท่านใด ที่มีข้อสงสัยหรือประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดนราธิวาส (สคชจ.นราธิวาส) โทรศัพท์ 0 7353 2530, 0 6157 51312 หรืออีเมล [email protected]