fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กก้อง” ยัน ไม่มีปัญหากับ “บิ๊กโจ๊ก” คดีกำนันนก

Featured Image
บิ๊กก้อง ยัน ไม่มีปัญหากับ “บิ๊กโจ๊ก” พร้อม เตรียมแจ้งม.157 ตำรวจในงานเลี้ยงบ้าน “กำนันนก ” เพิ่ม 15 นาย – ผู้กำกับเบิ้มรอด จากกล้อง พบ ช่วย พ.ต.ท.วศิน ส่งรพ.

 

 

วันนี้ (26 ก.ย. 66) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงความคืบหน้ากรณี นายธนัญชัย อายุ 45 ปี หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิท นายประวีณ หรือ กำนันนก ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร หรือ สว.ศิว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน รอง ผกก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อช่วงวันที่ 6 ก.ย.66 ที่ผ่านมา

 

 

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ประเด็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 กรณีมีภาพข่าวที่ปรากฏมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนาย ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบแล้วพบว่า ในวันเกิดเหตุมีข้าราชการตำรวจไปร่วมงาน จำนวน 29 คน ได้ร่วมกันพิจารณาข้อเท็จจริง ประกอบพยานหลักฐาน แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

 

กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน
กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา มีจำนวน 6 คน ซึ่งถูกออกหมายจับดำเนินคดีและนำตัวไปฝากขังแล้วก่อนหน้านี้
กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยทันทีขณะเกิดเหตุ จำนวน 6 คน
กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่มีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 15 คน

 

 

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบอีกว่า พ.ต.อ.วชิรา หรือผู้กำกับเบิ้มอยู่ในกลุ่มให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยทันทีขณะเกิดเหตุ โดยหลังเกิดเหตุได้เร่งรีบนำตัว พ.ต.ต.ศิวกร และ พ.ต.ท.วศิน ไปโรงพยาบาลเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องโดยทันที ไม่เข้าข่ายเป็นความผิด เป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องนำคนเจ็บส่ง โรงพยาบาล ไม่มีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

 

 

ประเด็นเรื่องกล้องวงจรปิดพบมีทั้งหมด 15 ตัว ในจำนวนที่ใช้ได้ทั้ง 13 ตัวและกล้องที่เสียมานาน 2 ตัว ส่วนกล้องตัวที่ 6 เป็นกล้องตัวที่สำคัญที่สุดซึ่งจะส่องไปยังจุดเกิดเหตุ จะทำให้เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน แต่ประเด็นคือกล้องตัวที่ 6 ถูกถอดปลั๊กออกตั้งแต่เวลา 10:16 น. โดยขณะนี้กองบังคับการปราบปรามกำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับจากประเทศที่ 3 และนิติวิทยาศาสตร์เพื่อกู้ไฟล์ภาพจากกล้องตัวดังกล่าว

 

 

โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ทั้ง 15 ราย คณะพนักงานสอบสวนสืบสวน จะเรียกเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาให้ทราบ และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

สำหรับประเด็นเรื่องการโอนสำนวนมาที่ตำรวจสอบสวนกลางนั้น พล.ต.ท.จิรภพ เผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและสลับซับซ้อนรวมถึงเกรงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงรับโอนคดีมาตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน ขณะที่ในคดีอื่นๆไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรหรือตำรวจสอบสวนกลางงานที่มีความเสี่ยงสูงก็ได้มีการร่วมงานอยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว

 

 

 

เพราะฉะนั้นเป็นการทำงานร่วมกันหลายฝ่าย การแยกกันทำมองว่าเป็นการซ้ำซ้อน การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนมาก็ไม่ได้มีปัญหา และไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์? เพราะท่านสามารถมาช่วยทำคดีได้ ตนมองว่าเป็นการทำงานร่วมกัน และยืนยันไม่ได้มีปัญหาในการทำคดี

 

 

ส่วนการตรวจสอบการฮั้วประมูลของบริษัทเครือข่ายกำนันนกนั้น จากการตรวจสอบได้พบข้อพิรุธหลายประเด็น โดยพบว่า บริษัทเครือข่ายกำนันนกเปิดมาตั้งแต่ปี 2540 ได้ร่วมประมูล 1,527 โครงการ ชนะประมูล 1,314 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 85 ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่อยู่ในจังหวัดนครปฐม

 

 

อีกทั้งบริษัทของกำนันนกยังมีสถิติชนะประมูลโครงการเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนวิธีการประมูลเป็นรูปแบบที่เป็น e-bidding ในปี 2558 โดยชนะในราคาที่ต่างกันเพียงหลักพันหรือหลักหมื่นบาท อีกทั้งบริษัทที่ร่วมประมูลก็ยังเสนอราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางจะประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบในประเด็นนี้ต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube