อัจฉริยะ เปิดหลักฐานโต้ บิ๊กโจ๊ก ระบุบ้าน 5 หลังมีชื่อ ผัวเมีย จากจ.อุดร เป็นผู้ครอบครอง – เตรียมร้อง ปปป.สอบ การถือครองทรัพย์สิน
วันนี้ (26 ก.ย.66) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐาน แถลงโต้ คำสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่แถลงกับสื่อมวลชน เมื่อวานที่ผ่านมา ว่า
ในประเด็นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า ตำรวจเอาหมายค้น จากศาลมาโดยไม่ชอบเพราะไปหลอกศาลว่า ไม่รู้ว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ รอง ผบ.ตร. โดย นายอัจฉริยะ ระบุว่า บ้าน 3 หลัง แรก มีชื่อของเสี่ยแต๋ม อุดรธานี ส่วน อีก 2 หลังที่บิ๊กโจ๊ก อ้างว่าเป็นบ้านของตัวเขาเอง แต่มีชื่อของ ภรรยาเสี่ยแต๋ม อุดรธานี เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งทั้ง 2 คนไม่ใช่ญาติของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตามที่กล่าวอ้าง
ดังนั้นการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอ้างว่าพนักงานสอบสวนชุดของ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ มีการไปหลอกศาลเพื่อขอออกหมายค้น บ้าน รอง ผบ.ตร. ไม่เป็นความจริง เพราะในบ้านเลขที่ที่มีการระบุในหมายค้นทั้ง 5 หลังเป็นชื่อของบุคคลอื่นไม่ใช่ชื่อของบิ๊กโจ๊ก
ส่วนบุคคลที่ศาลออกหมายจับเป็นนายเวรของบิ๊กโจ๊กที่เชื่อว่าอยู่บ้านหลังนี้ แต่ไม่คิดว่า ตัวของบิ๊กโจ๊กเอง จะอยู่ในบ้าน 2 หลังดังกล่าว ด้วย
ส่วนประเด็นเรื่อง การจ่ายค่าไฟฟ้า ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า ให้เงิน ลูกน้องไปจ่ายค่าไฟ นั้น นายอัจฉริยะ อ้างว่า มินนี่ นำบัญชีม้า ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ใช้ในการจ่ายค่าไฟฟ้า ทั้ง 5 หลัง
ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.66) ตนเองจะไปยื่นร้องต่อ บก.ปปป. ให้ตรวจสอบบ้านจำนวน 5 หลัง ซึ่ง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ อ้างว่า ตนเองเป็นเจ้าของแต่ใช้ชื่อผู้อื่นถือกรรมสิทธิ์ครอบครองว่าได้มาซึ่งประโยชน์หรือทรัพย์สินเกินที่ พรบ.ปปช กำหนด หรือไม่ และได้แจ้งในบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินหรือไม่ เพื่อให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินตามกฏหมาย
ส่วนกรณีที่ บิ๊กโจ๊ก อ้างว่าไม่รู้จักกับ มินนี่นั้น นายอัจฉริยะ ได้นำภาพถ่ายของบิ๊กโจ๊ก ที่ถ่ายร่วมกับมินนี่ ภรรยาของบิ๊กโจ๊ก และ เอ ศุภชัย ผู้จัดการดาราชื่อดัง มาให้สื่อมวลชนดู ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ถ่ายในงานเลี้ยง ที่บิ๊กโจ๊ก ให้ข้อมูลกับสื่อเมื่อวานนี้ จึงอยากให้ชุดสืบสวน ของ PCT เชิญ คุณเอศุภชัย มาให้ข้อมูล ในฐานะพยาน ว่ารู้จักกับมินนี่หรือไม่ และไปร่วมงาน ในวันดังกล่าวได้อย่างไร
นายอัจฉริยะ ยังระบุด้วยว่า ตนเองยังมีข้อมูลอีกว่าน่าจะมี บุคคลอย่างน้อยอีก 4 กลุ่ม ที่เข้าข่ายถูกดำเนินคดี เช่นกลุ่มนักฏหมาย กลุ่มนักข่าว กลุ่มข้าราชและ กลุ่มพลเรือน
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ได้ฝากถึง นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสฝ่ายสืบสวนสอบสวนและการศึกษา สำนักงานอัยการสูงสุด ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การขอหมายค้น ว่า อยากให้ข้อมูลที่เป็นกลางกว่านี้และอยากให้ดู พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแบบอย่าง เพราะมีความเป็นกลางถึงกรณีดังกล่าว เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องต่อประชาชน เพราะส่วนตัวก็ยังเชื่อว่าตำรวจชุดทำงานที่เข้าตรวจค้นไม่ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เพราะจากข้อมูลที่ชี้แจงในวันนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ปรากฏชื่อบุคคลที่เป็นคนใกล้ชิดหรือครอบครัวหรือรวมถึงตัวพลตำรวจเอกเอกสุรเชษฐ์ ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
