fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” แถลงความคืบหน้า กรณีคนร้ายยิง สารวัตรศิว

Featured Image
บิ๊กโจ๊ก แถลงประเด็น ความคืบหน้าในคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิงพันตำรวจตรีศิวกร และเหตุการตายของพันตำรวจเอกวชิรส

 

 

 

วันนี้ (12 ก.ย 66 ) ที่สโมสรตำรวจ 10.00 พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าในคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิงพันตำรวจตรีศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกํากับการ 2 กองบังคับการตํารวจทางหลวง ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในบ้านพักกำนันนก พื้นที่จังหวัดนครปฐม ว่า การสืบสวนมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีความชัดเจนว่ามีผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงทั้งหมด 28 คน พลเรือนอีก 27 คนดำเนินคดีกับตำรวจไปแล้ว 6 นาย และพนักงานราชการของกรมราชทัณฑ์ 1 นาย รวมทั้งพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอีก 4 คน

 

 

 

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังต้องรอข้อมูลที่กู้ได้จากกล้องวงจรปิดมาประกอบกับข้อมูลจากการสืบสวนเพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยคาดว่าจะมีความชัดเจนใน ในอีก 3 วัน นี้ ซึ่งจะมีทั้งตำรวจและพลเรือน และจะมีการขยายผลไปยังประเด็นอื่นๆที่เชื่อมโยงเช่น เครือข่ายธุรกิจกำนันนก การฮั้วประมูล และการทำพนันออนไลน์ ซึ่งหากตรวจสอบพบการกระทำผิดมูลฐานที่เข้าขายฟอกเงินก็จะร่วมกับ ป.ป.ง.ดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ขณะนี้มีข้อมูลเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับกำนันนกแล้ว ซึ่งมีทั้งพลเรือนและข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

และจากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง วันนี้ผู้บังคับบัญชายังไม่ให้ความจริง แม้จะมีลูกน้องถูกยิงเสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 1 รายและมีตำรวจยิงตัวตายไปอีก1 ราย ทั้งยังไปปกป้องช่วยเหลือคนร้ายอีก ก็นับว่าแย่เต็มที วันนี้ตำรวจต้องรักตำรวจ คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต้องให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ถึงไม่ให้ก็ไม่เป็นไร พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจบางนายร้องไห้นั้น ก็ไม่ใช่การร้องไห้ระหว่างถูกสอบสวน เพียงแต่ร้องไห้เมื่อมีญาติมาเข้าเยี่ยมเท่านั้น

 

 

 

และกรณีการเสียชีวิตของพันตำรวจเอกวชิรส ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่ยิงตัวเองเสียชีวิตในบ้านพักย่านคูคตจังหวัดปทุมธานีวานนี้ เบื้องต้นเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ขณะนี้รอผลการพิสูจน์จากพิสูจน์หลักฐานและนิติเวชว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือเป็นการทำให้ตายจึงจะมีความชัดเจน ส่วนประเด็นที่ปรากฏสัญญาณโทรศัพท์มือถือของในพื้นที่บางนา

 

 

 

หลังจากที่พันตำรวจเอกวชิราเสียชีวิตไปแล้วนั้นก็มองว่าเป็นเรื่องทีมีพิรุธเช่นกัน จะต้องเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาที่เก็บโทรศัพท์มือถือไว้มาสอบปากคำ รวมทั้งประเด็นการทำงานเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติด้วย อีกทั้งได้เรียกคนขับแท็กซี่ที่ขับไปส่งพันตำรวจเอกวชิรญาที่บ้านมาสอบปากคำแล้วเมื่อคืน ไม่พบความผิดปกติใด ๆ เป็นการเดินทางลำพัง และพันตำรวจเอกวชิรญาก็บอกทางตามปกติ

 

 

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลพญาไทข่มขู่ผู้สื่อข่าวนั้น เรื่องดังกล่าวคาดว่าเกิดจากความเครียดของตำรวจ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นการกระทำผิดวินัยหรือไม่ แต่หากผู้สื่อข่าวต้องการแจ้งความดำเนินคดีก็สามารถแจ้งกับตนได้ ส่วนการที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้จัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักข่าวนั้น มองว่าไม่เป็นเรื่องน่ากังวล

 

 

 

เป็นการดำเนินการเพื่อความเรียบร้อยและปลอดภัยในพื้นที่ และถ้าตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นๆจะมีความเครียดหรือไม่ก็ต้องให้ผู้บังคับบัญชาไปคอยดูแล มีนักจิตวิทยาโรงพยาบาลตำรวจดูแลให้อยู่แล้ว เรื่องทั้งหมดเกิดจากตำรวจไปเป็นไม้คำยันให้กับบุคคลเหล่านี้

 

 

 

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้พูดคุยกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่พร้อมจะให้การสนับสนุนข้อมูลรายชื่อผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube