ปอศ. จับผู้ต้องหาแก๊งปลอมบัตรเครดิตทูตนิวซีแลนด์ ตระเวนรูดซื้อน้ำมันทั่วไทย เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม น.ส.เกศกัญญาฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2029/2552 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 โดยกล่าวหากระทําผิดฐาน “ร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกันใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตร อิเล็กทรอนิกส์ปลอม อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทําปลอมหรือแปลงขึ้น โดยการกระทําดังกล่าวเป็นการกระทํา เกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชําระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือ หนี้อื่นแทนการชําระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด ,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชปลอม” โดยจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านพัก ในพื้นที่ ม. 10 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากช่วงปี 2551 สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจําประเทศไทยได้ให้ฝ่าย กฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ว่าเอกอัครราชทูตฯ ได้ถูกคนร้ายปลอมแปลงบัตรเครดิตและนํามาใช้ในประเทศไทย มียอด ความเสียหายเป็นเงินจํานวนกว่า 10 ล้านบาท
จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายได้กระทําความผิดร่วมกันเป็นขบวนการ ติดต่อซื้อข้อมูลบัตรเครดิตจาก ชาวมาเลเซีย จากนั้นจึงได้ทําการทําสําเนาข้อมูลลงบัตรเครดิตปลอมก่อนแจกจ่ายกันไปใช้ตระเวนชําระค่าน้ำมัน เพื่อนําน้ำมันไปขายต่อให้กับปั๊มน้ำมันเถื่อนอีกต่อหนึ่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับคนร้ายทั้งขบวนการจํานวน 7 ราย และ ได้ทําการจับกุม ผู้ร่วมขบวนการไปแล้วจํานวน 6 ราย พร้อมยึดของกลางได้จํานวนหลายรายการ แต่ยังเหลือ ผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.ปอศ. สืบสวนพบว่า น.ส.เกศกัญญาฯ หนึ่งในผู้ ร่วมขบวนการ ผู้ต้องหาตามหมายจับพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงลงพื้นที่เพื่อ ตรวจสอบจนกระทั่งสามารถจับกุมตัว น.ส.เกศกัญญาฯ ได้ที่หมู่บ้านดังกล่าว ก่อนนําตัวผู้ต้องหาส่งพนักงาน สอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ในช่วงเกิดเหตุ ตนได้ร่วมเดินทางนั่งรถยนต์ไปกับผู้ต้องหา ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ทําการตระเวนรูดซื้อน้ำมัน และสินค้าหลายรายการในพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ ต่อมาทราบว่าตนมีหมายจับจึงได้หลบหนีเปลี่ยนที่อยู่เรื่อยมาเป็นเวลา 14 ปี จนกระทั่งมาถูกจับกุม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews