fbpx
Home
|
อาชญากรรม

จับ “มาเฟียฝรั่งเศส” ไถเงินชาติเดียวกัน อ้างชื่อ “บิ๊กโจ๊ก”

Featured Image
“บิ๊กโจ๊ก” แถลงจับ มาเฟียฝรั่งเศส ไถเงินชาติเดียวกัน เผยเตรียมเรียก ตม. กว่า 100 นาย ดําเนินคดีอาญา

 

 

วันนี้(2 ก.พ. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมมาเฟีย ชาวฝรั่งเศส รีดไถ หลอกลวง เก็บค่าคุ้มครองคนชาติเดียวกัน โดยอ้างสนิทกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่งผลให้มีผู้เสียหายกว่า 10 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาชาวฝรั่งเศสรายนี้มีหมายจับติดตัวอยู่ 5 หมาย และพบว่าสิ้นสุดการอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ 15 กันยายน 2563 โดยสิ้นสุดระยะเวลาหรือ”โอเวอร์สเตย์ ” จํานวน 868 วัน ซึ่งมีหมายเรียกจากศาลแต่ไม่มาพบและหลบหนีไปซ่อนอยู่ที่แถวลาดพร้าว จนกระทั้งสามารถนํากําลังบุกจับกุมเอาไว้ได้คาห้องพัก

 

พฤติการณ์คือผู้ต้องชาวฝรั่งเศสรายนี้อยู่ประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี และเคยเป็นอาสาสมัครตํารวจท่องเที่ยวรวมถึงมีภาพถ่ายกับเจ้าหน้าที่ตํารวจเยอะรวมถึงแอบอ้างชื่อของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลด้วย จึงทําให้ดูน่าเชื่อถือ และมีการรับต่อวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสด้วยกัน ซึ่งแรกๆอาจทําได้จริงแต่ช่วงหลังพอมีจํานวนเงินที่มากขึ้นก็ได้มีการปิดโทรศัพท์และหนีหายไป

 

ด้านตัวแทนผู้เสียหายรายหนึ่ง เผยว่าผู้ต้องหารายนี้ทําที่ไปตีสนิทและบอกว่าหากจะขายบ้านตนเองสามารถทําให้ได้ ซึ่งได้ให้ผู้เสียหายเซนต์เอกสาร และสุดท้ายได้โอนบริษัทกับบ้านไปเป็นชื่อตนเองเสียหายเกือบ 10 ล้านบ้าน เหตุที่เซนต์เป็นเพราะคนฝรั่งเศสค่อยข้างจะเชื่อใจกันมาก

 

และผู้เสียหายอีกราย เผยอีกว่า ผู้ต้องหาบอกว่าตนเองทําผิดกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องเอกสารตรวจค้นเข้าเมือง วันต่อมานําตํารวจเข้ามาตรวจสอบในสํานักงานและอ้างว่าสามารถช่วยได้ เพราะรู้จักตํารวจเยอะ ด้วยความกลัวจึงหลงเชื่อ

 

โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตํารวจที่ผู้ต้องหาไปถ่ายรูปด้วย เขาไม่รู้เรื่องและยืนยันว่าไม่มีตํารวจรับเงินจากผู้ต้องหา ซึ่งความมาแตกตรงที่มาอ้างว่าตนเองเป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งเพื่อนที่เรียนเอฟบีไอด้วยกัน ได้แนะนําให้ผู้เสียหายมาหาตนเพราะเชื่อว่าตนไม่ใช่คนแบบนั้น จึงทําให้วันนี้ผู้เสียหายเดินทางตรงมาจากฝรั่งเศสเพื่อมาฟังการแถลงในวันนี้ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตามด้านผู้เสียหายได้กล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ช่วยจับกุมผู้ต้องหาได้ และมีสีหน้ายิ้มแย้มดีใจอย่างเห็นได้ชัด

 

ทั้งนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หาก ตม.ยังเรียกรับผลประโยชน์เช่นนี้อยู่จะต้องดําเนินคดีอาญาทั้งหมด ซึ่งในเร็วๆนี้จะมีเรียกตัวเจ้าหน้าที่ที่กระทําผิดเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและจะดําเนินคดีทั้งหมด จํานวน 100 กว่าคน ในข้อหาหนักคือมาตรา 157 กับ 149 ใครทําผิดอะไรบ้างก็ติดคุกกันหัวโต ไม่ละเว้นใดๆทั้งสิ้น

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube