fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ไฮโซเบล ร้องถูกอดีตสามีทำร้าย

Featured Image
ไฮโซเบลล์ ร้องกระทรวงยุติธรรม เหตุอดีตสามีลูกชายดีเจดังทำร้าย ทุกครั้งที่แจ้งความตำรวจอ้างเรื่องครอบครัว คดีไม่คืบ

 

 

วันนี้ (22 ส.ค.65) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อม นางสาวธัญญ์สมินธิ์ มหาโชติเทวากุล หรือ “เบลล์ญาณบารมี” ซึ่งเป็นผู้เสียหาย กรณีถูกลูกชายคนเล็กของดีเจรุ่นเก๋า ชื่อดังระดับประเทศทำร้ายร่างกาย ร้องต่อว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม ณ กระทรวงยุติธรรม

 

นางสาวธัญญ์สมินธิ์ กล่าวว่า ตนกับผู้ก่อเหตุ คบหากันได้ 6 เดือน โดย 2-3 เดือนแรก ตัวผู้ก่อเหตุเริ่มมีพฤติกรรมฉุนเฉียว พูดคนเดียว เก็บตัวอยู่ในห้อง และกระชากผมตน ซึ่งตนโดนกระทำมาตลอดทั้งข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกาย แม้กระทั่งตอนตั้งครรภ์บุตรของเขา ก็ถูกผลัก ถูกถีบสารพัดในโรงพยาบาล แม้กระทั่งในวันที่คลอดบุตรก็ยังโดนทำร้ายร่างกาย

 

นอกจากนี้ เวลาผู้ก่อเหตุหงุดหงิดฉุนเฉียว ตนจะโดนทำร้ายร่างกายตลอด ตลอด 6 เดือนที่ถูกทำร้ายร่างกาย ตนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ เกิดภาวะซึมเศร้า หวาดระแวงและวิตกกังวลง่าย เหมือนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีความสุข เห็นหน้าเขาแล้วกลัว และการเลิกรา ฝ่ายชายจะตามรังควานตนทุกครั้ง ตามไปที่บ้านหรือพอทราบว่าเราอยู่ที่ไหน เขาจะติดตามหาเราจากทุกช่องทางพยายามตามให้เจอตัวและไปทำร้ายร่างกาย ทั้งยังเคยด่าว่าตนตามที่สาธารณะ ตามร้านข้าวหรือโรงพยาบาล และสถานที่อื่นๆ ที่ผ่านมา หากเราทำอะไรที่ไม่ถูกใจเขานิดเดียว ก็จะถูกทำร้ายร่างกายทุกอย่าง รวมไปถึงกระทำต่อหน้าคนอื่นๆ เขาไม่เคยให้เกียรติตนแต่อย่างใด

 

ซึ่งตนคาดว่าเกิดจากการที่เขามีสภาวะควบคุมอารมณไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดด้วยหรือไม่ เพราะตนเคยเห็นเขาถอดแมสก์แล้วมีผงขาวๆที่ปลายจมูก จึงสอบถาม จนเขาสารภาพเองว่าเสพยามา และด้วยความที่ผ่านมา ตนไม่เคยอยู่ในสังคมคนเล่นยา เลยไม่รู้ว่าอาการเป็นอย่างไร แต่พอเขาสารภาพ ตนจึงไปหาข้อมูลไปศึกษาว่าอาการคนเล่นยาเป็นอย่างไร จึงพบว่าพฤติกรรมที่เขาเป็น มีความคล้ายคลึงอย่างมาก ทุกครั้งที่ไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะบอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัวไม่อยากยุ่ง ไม่มีแม้แต่ความช่วยเหลือที่จะให้กลับมา นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุมักท้าทุกครั้งว่าไม่กลัว หากตนไปแจ้งความดำเนินคดี และมักอ้างว่ามีตำรวจให้ความช่วยเหลือ

 

ด้านว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า การบุกรุกในเวลากลางคืน ทั้งในท้องที่ สน.โคกคราม และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ยืนยันว่าจะช่วยติดตามคดีให้ เพราะกฎหมายไม่อนุญาตในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย และเมื่อได้ตัวผู้ก่อเหตุมา อาจจะต้องให้ตำรวจไปตรวจหาสารเสพติดด้วย ทั้งนี้ เมื่อสักครู่ ตนได้ประสานไปที่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 โดยท่านได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด

 

เรียกผู้ก่อเหตุเข้าไปพบและไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ จากนี้จะมอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนนทบุรี ดูแลในเรื่องคุ้มครองสิทธิพยาน ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการในเรื่องนี้ให้ และจะประสานงานไปยัง สน.ท้องที่ สอบถามว่ามีการดำเนินคดีไปถึงขั้นไหนแล้วบ้าง รวมไปถึงได้ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ด้วย

 

เนื่องจากที่เกิดเหตุสองที่อยู่ในท้องที่นครบาล เพื่อให้ท่านได้รับทราบและติดตามข้อมูลว่าเหตุใดคดีความถึงไม่มีความคืบหน้า จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายซ้ำๆและถูกข่มขู่คุกคามอยู่บ่อยครั้ง การใช้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกระทำได้พร้อมฝากถึงสังคมด้วยว่า หากพบเห็นการทำร้ายร่างกายแล้วมีคนพูดว่าเป็นเรื่องของผัวเมีย แบบนี้เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ยืนยันว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายบ้านเมือง จะมีชื่อเสียงขนาดไหน หากกระทำผิดกฎหมาย เราดำเนินคดีหมด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube