คดีฮั้ว สว. แสงสว่างริบหรี่ ที่ปลายอุโมงค์
ความคืบหน้าการสืบสวน สอบสวนคดีการฮั้วเลือก สว. ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ของหลายภาคส่วน ทั้งฟากฝั่งของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หรือ แม้กระทั่งการฟ้อง ตรง จากกลุ่ม สว.สำรอง ที่ยื่นฟ้อง กกต. ไว้ เนื่องจากเล็งเห็นว่า อาจะเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จากการพิจารณาคดีฮั้ว สว.ที่ล่าช้าเกินควรหรือไม่
ในส่วนของคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ดีเอสไอ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอั้งยี่-ฟอกเงิน สว.ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และพนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน ได้มีการประชุมหารือร่วมกันในประเด็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว.
สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาลอตแรกจำนวน 8 ราย ที่มีทั้ง เครือข่ายของพรรคการเมืองใหญ่, นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช, ผู้บริหาร, สมาชิกวุฒิสภาตัวจริง จังหวัดสุราษฎร์ธานี, อดีตผู้สมัคร สส.พรรคการเมืองใหญ่, สมาชิกวุฒิสภาตัวจริง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดทางภาคใต้ โดยจะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของอัยการต่อไป
ในส่วนของ กกต. นั้น ล่าสุด มีการ เผยแพร่คำวินิจฉัยมีมติให้ยื่นคำร้องต่อ ศาลฎีกา เพื่อเพิกถอนสิทธิสมัครหรือสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญากับบุคคล 3 รายที่ไม่ใช่ผู้สมัคร สว. ฐานเป็นคนกลางในขบวนการฮั้วเลือก สว.ระดับประเทศ พร้อมกันนี้กันผู้มีสิทธิเลือก 1 รายไว้เป็นพยาน คดีสืบเนื่องจากการเลือก สว.ระดับประเทศ เมื่อ 26 มิ.ย. 2567 กลุ่มที่ 7 ซึ่งผู้ถูกร้องบางส่วนไม่ลงคะแนนให้ตนเอง ส่งผลให้ได้ 0 คะแนน เข้าข่ายสมยอมทุจริตฝ่าฝืนกฎหมายเลือก สว.
กกต.รับฟังพยานหลักฐานว่า มีการจัดหาผู้สมัคร ดูแลค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ไปจนถึงมอบเงินสด 10,000 บาท เพื่อแลกกับการลงคะแนนตามโพยที่กำหนด กกต.เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการจัดให้ สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อจูงใจการลงคะแนน เข้าข่ายทุจริต ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ พร้อมแยกสำนวนผู้มีสิทธิเลือกอีก 22 รายไปไต่สวนเพิ่มเติม
ส่วนคดีที่ นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สว.สำรอง ได้ยื่นฟ้อง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กับพวก กกต. และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. รวมทั้งหมด 8 คน เป็นจำเลย ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีคำสั่งให้ มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมแนบสำเนาคำฟ้อง และสำเนารายงานกระบวนพิจารณาฉบับนี้ เพื่อให้ กกต. ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง ใน 10 ประเด็น
รวมทั้ง มีคำสั่งให้ส่งหนังสือถึงสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง พร้อมแนบสำเนาคำฟ้อง และสำเนารายงานกระบวนพิจารณาฉบับนี้ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง ว่า ปัจจุบัน การสอบสวนอยู่ในขั้นตอนใด โดยให้ทาง สน.ทุ่งสองห้อง ชี้แจงข้อเท็จจริงและจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายในวันที่ 23 ม.ค.2569 โดยศาลอาญาคดีทุจริต ได้เลื่อนคดีไปนัดฟังคำสั่งหรือ คำพิพากษา ในวันที่ 27 ม.ค. 2569 เวลา 09.30 น.
ขณะที่ นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเห็นเกี่ยวกับคดี ฮั้ว สว. โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ว่า คดีดังกล่าวมีที่มาจากการสืบสวนไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. ซึ่งปรากฏว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ได้สรุปสำนวนและเสนอความเห็นให้ดำเนินคดีแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 229 ราย
ประกอบด้วย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 138 ราย กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยและเครือข่าย จำนวน 91 ราย พร้อมทั้งเสนอให้ดำเนินการ ยุบพรรคภูมิใจไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 เดือนเศษ ประเทศได้เดินทางผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองสำคัญหลายประการ ตั้งแต่ช่วงที่พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
กระทั่ง นายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 จนถึงการกำหนดวันเลือกตั้ง สส. ใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 แต่ผลงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 กลับยังไม่สามารถเดินทางจาก กกต. ไปถึงศาลฎีกา เพื่อสอย สว. 138 คน และยังไม่สามารถเดินทางจาก กกต. ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทยได้
นายวัส ติงสมิตร ยังย้ำอีกว่า แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ซึ่งเคยปรากฏ ดูจะค่อย ๆ ริบหรี่ลงตามกาลเวลา คำถามสำคัญที่ยังคงค้างคาอยู่คือ เรายังจะมีหวังเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ดวงใหม่ สว่างขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่ และหากมี…จะเกิดขึ้นเมื่อใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





