Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ย้อนตำนาน “เอาอยู่” ปี 54 จาก “นายกฯปู” ถึง “นายกแป้น” หาดใหญ่

น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เริ่มคลี่คลาย สถานการณดีขึ้น น้ำลดแล้วในหลายพื้นที่ หลายจุดประชาชนเริ่มกลับไปทำความสะอาด ฟื้นฟูบ้านเรือน ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

 

บางคนบอกแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ทรัพย์สินที่หามา สะสมมาทั้งชีวิต สูญหาย ถูกทำลายไปกับน้องน้ำ และเกิดคำถามตามมาอีกมากมาย ว่าเพราะอะไร ประเทศไทย จึงเกิดน้ำท่วม ซ้ำแล้วซ้ำอีก อยู่เป็นประจำ ซึ่งในภาคใต้จังหวัดอื่นๆ ทั้งสตูล พัทลุง นครศรีธรรมราช,ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส น้ำก็ท่วมอยู่ และก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ภาคกลาง บางจังหวัด ก็ท่วม และยังท่วมอยู่ ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติจนถึงตอนนี้

 

มันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำท่วม คือระบบบริหารจัดการน้ำ ที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จะไปโทษโยนความผิดให้ธรรมชาติ ว่าฝนตกหนัก ตกมากเกินไปก็คงไม่ได้ จะโทษลักษณะทางกายภาพ ของพื้นที่ ก็คงไม่ได้ 100% อีกเช่นกัน

 

เพราะปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยี มีอุปกรณ์ มีเครื่องมือที่ทันสมัยมากมาย สามารถแจ้งเตือน สามารถทำอะไรเพื่อป้องกัน และน่าจะทำได้ดีกว่าในอดีต แต่หาดใหญ่ กลับต้องเผชิญกับน้ำท่วม ที่รุนแรง และสูญเสียมากกว่าทุกๆครั้ง

 

เสียงจากโซเชียล ของชาวหาดใหญ่ หลังน้ำลด ทุกคนพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ชาวบ้านไม่ได้อพยพ หรืออพยพไม่ทัน เพราะการสื่อสารของหน่วยงานท้องถิ่น และส่วนกลาง ไปคนละทิศทาง ทำให้สับสน และสูญเสียโอกาส ในการหนีน้ำ ชาวบ้านเชื่อ เทศบาลนครหาดใหญ่ ที่สื่อสารออกมาอย่างหนักแน่นว่า “เอาอยู่”

 

แต่ในความเป็นจริงกลับเอาไม่อยู่ จากธงเขียว กลายเป็น ธงแดง ในเวลาอันรวดเร็ว ก็ทำอะไรไม่ทันแล้ว และต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย น้ำท่วมเมืองหาดใหญ่จมบาดาล ในขณะรัฐบาลก็สั่งการอะไรช้ามาก จนเกิดความสูญเสียอย่างที่เราเห็น

 

คำว่า “เอาอยู่” เป็นวลีฮิต ในน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 ที่ “นายกฯยิงลักษณ์ ชินวัตร” เป็นต้นตำรับ เป็นคนแรกที่พูดคำนี้ ในการตอบคำถามสื่อมวลชนถึงสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งผลก็เป็นอย่างที่รู้กัน ในปีนั้น เป็นมหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ภาคเหนือและภาคกลาง ต้องเผชิญกับน้ำท่วมหนักนานหลายเดือน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 70 ปี

 

ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 16.2 ล้านคน มีมูลค่าความเสียหายกว่า 2.3 หมื่นล้าน และหลังจากนั้นเป็นต้นมา คำว่า “เอาอยู่” จะถูกนำไปถามกับนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบหน้างาน ในการดูแลแก้ปัญหาน้ำท่วมเรื่อยมา อย่างเช่น ในปี 2564 สมัยของ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีน้ำท่วมรุนแรง ก็เคยถูกตั้งคำถามด้วยคำว่า “เอาอยู่”หรือไม่ แต่การแก้ปัญหา ถือว่าทำได้ดีกว่าในระดับหนึ่ง

 

กระทั่งถึงยุครัฐบาลเพื่อไทยอีกครั้ง ทั้ง “เศรษฐา ทวีสิน และ แพทองธาร ชินวัตร” ก็ถูกธรรมชาติเล่นงาน มีน้ำท่วมหนัก ให้ต้องแก้ไขทั้ง 2 คน คำว่า”เอาอยู่” ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาถามด้วย แต่ทั้ง 2 คน ก็ผ่านด่านทดสอบนี้ไปได้ จนถึง”นายกฯอนุทิน ชาญวีรกุล” เข้ามารับตำแหน่ง ภาคเหนือ ภาคกลาง ก็มีน้ำท่วมให้พิสูจน์ฝีมือ

 

โดยรองนายกฯ “โสภณ ซารัมย์” ก็ใช้วลี “เอาอยู่” มาแสดงความมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้ รัฐบาลภูมิใจไทย ยังแก้น้ำท่วมภาคกลางไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ ก็มีน้ำท่วมภาคใต้ตามมา และคำว่า “เอาอยู่” ก็ถูกใช้อีกครั้ง

 

โดย “ณรงค์พร ณ พัทลุง” หรือนายก”แป้น” แห่งเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งรับตำแหน่ง มาประมาณ 4 เดือนกว่าๆ และถูกเชื่อมโยงว่าเป็นเครือข่ายสีน้ำเงิน ได้ประกาศกับชาวหาดใหญ่ ว่าเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว “เอาอยู่” แน่นอน แต่กลายเป็นว่า เสียหายยับเยิน และถูกขยายความมากยิ่งขึ้น

 

เมื่อโฆษกรัฐบาล”สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ” ตอบคำถามสื่อมวลชน ว่า “เอาอยู่” ต้องย้อนไปถาม ปี 54 ไม่ใช่ปีนี้ จนขุนพรรคพรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้กันยกใหญ่ กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ท่ามกลางน้ำท่วมไปในทันที คาดว่าหลังจากนี้ คงไม่มีใครกล้านำวลี “เอาอยู่” ไปแสดงความมั่นใจ ในการรับมือน้ำท่วมอีกแล้ว…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube