“ดร.เอ้” นำ “ไทยก้าวใหม่” พร้อมเลือกตั้ง ชูแคมเปญแก้น้ำท่วม
พรรคไทยก้าวใหม่ ภายใต้การนำของ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” กับแนวคิดนโยบาย ธนู 4 ดอก นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ ด้วยการสร้างคนผ่านการศึกษา
พร้อมยืนยัน ส่งผู้สมัคร สส.กทม.ครบทั้ง 33 เขต โดยชูแคมเปญใหญ่ แก้ปัญหาน้ำท่วม เพื่อย้ำว่า พรรคอยากเป็นทางออกให้คนกรุงเทพฯ” และประกาศไม่ว่า จะยุบสภาเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งทันที
หลังเปิดตัวพรรคไทยก้าวใหม่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ภายใต้การนำของ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุรรณสวัสดิ์“ หัวหน้าพรรค ที่มาพร้อมกับความรู้ ความสามารถ เป็นที่รู้จักในฐานะนักวิชาการ วิศวกร และนักบริหารผู้ทรงอิทธิพล ในแวดวงการศึกษาไทย
รวมถึงกรรมการบริหารพรรคและทีมงานมากประสบการณ์ ที่ต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ อย่างคับคั่ง อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพาณิชย์ รับหน้าที่เป็นประธานพรรค ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างนักวิชาการ และนักการเมืองที่มีประสบการณ์ ส่วนทีมบริหารประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในตำแหน่งสำคัญ
เช่น ดร.คเณศ วังส์ไพจิตร เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ, นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา รับผิดชอบการนำนโยบายไปปฏิบัติ และนายก้องเกียรติ กรสูต เป็นเลขาธิการพรรค
คณะกรรมการบริหาร ยังดึงบุคลากรจากหลากหลายวงการมาร่วมทีม เช่น พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านนโยบายปราบปรามการทุจริตด้วย
ภายใต้สโลแกนที่ประกาศความมุ่งมั่นว่า “พรรคไทยก้าวใหม่ ก้าวใหม่ ให้ไทยสตรอง” โดยวัตถุประสงค์หลักของการก่อตั้งพรรค คือ การขับเคลื่อนประเทศไทยให้หลุดพ้นจากภาวะสิ้นหวังและหลุมดำทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งเป้าไปที่การสร้างคนและการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ
พรรคไทยก้าวใหม่ ยังชูนโยบายหลักที่เปรียบเสมือน “ธนู 4 ดอก” เพื่อนำการปฏิรูปประเทศให้ “สตรอง” นโยบายเหล่านี้ ครอบคลุมการสร้างคนใหม่, การพลิกโฉมการศึกษาไทย, การก้าวล้ำด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, และการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน
แกนกลางของนโยบายทั้งหมด คือความเชื่อที่ว่า “การศึกษา” คือ กุญแจสำคัญและเป็น “อาวุธที่มีอานุภาพสูงสุด” พรรคยืนยันว่า ทุกชาติที่พัฒนาแล้วในโลกล้วนยกระดับคนจากความยากจน
สู่ความมั่งคั่งด้วยการสร้างคนผ่านการศึกษา
ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม ถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่จะเป็นแคมเปญหาเสียง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคไทยก้าวใหม่ ประกาศแนวทางเชิงโครงสร้าง เช่น โครงการ “แก้มลิงเจ้าพระยา” ประตูน้ำป้องกันน้ำทะเลหนุน การบูรณาการผังเมืองกับระบบน้ำ และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง AI / Big Data ในการบริหารลุ่มน้ำแบบเรียลไทม์ แนวทางที่พรรคเรียกว่าการแก้ที่ “ต้นเหตุ” ไม่ใช่แค่แจกเยียวยา”
โดยพรรคไทยก้าวใหม่ ประกาศส่งผู้สมัคร ส.ส. กทม.ครบ 33 เขต ตั้งใจตีคู่ชิงพื้นที่เมืองหลวงด้วยการชูแคมเปญ “แก้มลิงเจ้าพระยา” และแนวทางจัดการน้ำท่วมระยะยาว พร้อมทีมผู้สมัครที่เป็นทั้งคนรุ่นใหม่ และผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพ เพื่อย้ำว่า อยากเป็นทางออกให้คนกรุงเทพฯ
“คำถาม คือ นโยบายแบบนี้จะเปลี่ยนใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน กทม. ได้มากน้อยแค่ไหน และจะชนกับคู่แข่งหัวเมืองอย่างไร” ดังนั้น การชูนโยบายเทคนิค-วิศวกรรมและเทคโนโลยี เป็นจุดได้เปรียบ หากพรรคสื่อสาร ได้ชัดและจับกลุ่มคนที่กังวลเรื่องคุณภาพชีวิตในเมือง แต่ความท้าทาย คือ งบประมาณ เวลา และความร่วมมือข้ามหน่วยงาน เพราะโครงการระบายน้ำหรือประตูน้ำต้องการข้อผูกมัดระยะยาว ไม่ใช่แค่นโยบายหาเสียงช่วงสั้น ๆ”
ดร.เอ้ ระบุด้วยว่า พร้อมเป็นทางออกใหม่ โดยเฉพาะในเมืองหลวงที่ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แต่การพิสูจน์ว่าจะ “ทำได้จริง” หรือไม่ อยู่ที่การแปลงนโยบาย”‘ธนู 4 ดอก” ให้เป็นแผนปฏิบัติที่ชัดเจน มีงบ และความร่วมมือข้ามหน่วยงาน ที่เราจะต้องจับตาดูการเดินเกมในสนาม กทม. และการผลักดันโครงการแก้ปัญหาน้ำของพรรคต่อไป อีกทั้งยังประกาศด้วยว่าไม่ว่ารัฐบาลจะยุบสภาเมื่อใด พรรคไทยก้าวใหม่ ก็พร้อมที่จะลงสนามการเลือกตั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





