Home
|
ข่าว

สนค.เงินเฟ้อพ.ค.หดตัว 0.57% – ช่วง5เดือนสูงขึ้น0.48%

Featured Image
สนค.เงินเฟ้อพ.ค.หดตัว 0.57% – ช่วง5เดือนสูงขึ้น0.48% โดยปรับคาดการณ์ทั้งปีลง เหลือ 0.0-1.0%

 

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.57 โดยปัจจัยหลักมาจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะผักสด และผลไม้สด จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รวมทั้ง มีการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า แก๊สโซฮอล์ และน้ำมันเบนซิน ตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลก สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก สำหรับเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือน ของปี 2568 สูงขึ้นร้อยละ 0.48

 

และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายน 2568 คาดว่าจะอยู่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลก ต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ และจะส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศปรับตัวลดลงทิศทางเดียวกัน ซึ่งส่งผลต่ออำนาจซื้อของประชาชนให้เพิ่มขึ้น ภาครัฐมีแนวโน้ม ดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2568 ลง 17 สตางค์ ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย และฐานของราคาผักสดในปีก่อนหน้าอยู่ระดับสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 จากเดิมอยู่ที่ระหว่างร้อยละ 0.3-1.3 (ค่ากลางร้อยละ 0.8) เป็นระหว่างร้อยละ 0.0-1.0 (ค่ากลางร้อยละ 0.5) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube