ศาลยกฟ้อง 5 กสทช.คดี “ไตรรัตน์” ฟ้อง ม.157

 

 

ศาลคดีทุจริตฯ’ยกฟ้อง คดี’ไตรรัตน์’ฟ้อง’5 กสทช.’ มีมติเด้งพ้น’รักษาการเลขาฯ’ปมถ่ายบอลโลก 600 ล้าน ชี้พยานหลักฐานไม่เพียงพอ

 

 

 

วันนี้ ( 8 เม.ย.68) ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 155/2566 ในคดีที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล อดีตรักษาการแทนเลขาธิการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยื่นฟ้องกรรมการ กสทช. 4 ราย และรองเลขาธิการอีก 1 ราย ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

 

สำหรับ 4 กรรมการ กสทช. และ 1 รองเลขาธิการ ที่นายไตรรัตน์ ฟ้องประกอบด้วย

 

1.พล.อ.ท.ดร. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช.
2.ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.
3.รศ.ดร. ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช.
4.รศ.ดร. สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ และ กรรมการ กสทช.
5.ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช.

 

เป็นกรณีที่บอร์ดเสียงข้างมากมีมติให้เปลี่ยนตัวรักษาการเลขาฯ สืบเนื่องจากการอุดหนุนลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลกปี 2022 จำนวน 600 ล้านบาท ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงกับสำนักงาน กสทช. ที่มีสาระสำคัญ คือ กกท. มีหน้าที่บริหารจัดการสิทธิที่ได้รับจาก FIFA ให้มีการออกอากาศที่ครอบคลุมกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ทุกประเภทอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติเพื่อให้สาธารณะได้รับชมการถ่ายทอดสดอย่างทั่วถึงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

สุดท้ายปรากฏว่า กกท. ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับบริษัทเอกชน โดยมีข้อกำหนดที่ไม่สอดคล้องกับระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และไม่สอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ที่ กกท. ทำไว้กับสำนักงาน กสทช. จนทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้

 

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. พิรงรอง เดินทางมาถึงศาล มี สีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนให้สัมภาษณ์ เบื้องต้น ระบุว่า ครั้งนี้หวังว่าจะได้รับความยุติธรรม ยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำถูกต้องทุกอย่าง ทำตามหน้าที่ด้วยความสุจริตทุกอย่างทำไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างชัดเจน ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใคร ส่วนในคดีนี้ กสทช.ได้เรียนรู้หรือจะมีแนวทางสำหรับการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 หรือไม่อย่างไร อาจารย์พิรงรอง บอกว่า คดีนี้เป็นคดีกลุ่ม เป็นการลงมติของบอร์ดทุกคน ส่วนตัวพูดแทนทุกคนไม่ได้

 

ขณะที่นายไตรรัตน์ แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาด้วยตัวเองแต่อย่างใด โดยได้มอบทนายความเข้ารับฟังคำพิพากษาแทน

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ การกระทำของจำเลยชอบด้วยกฎหมาย พิพากษายกฟ้อง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews