“รังสิมันต์” ห่วงส่งกลับอุยกูร์ กระทบบทบาทไทย
“รังสิมันต์” ห่วงส่งกลับอุยกูร์ กระทบบทบาทไทยต่อสิทธิมนุษยชน แปลกใจการตัดสินใจรัฐบาล
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว ชาวอุยกูร์ถูกส่งกลับจีน ว่าตั้งแต่เมื่อเย็นและตลอดช่วงกลางคืนพยายามพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน แต่คนที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่างก็ให้การปฏิเสธ แต่มันก็มีข้อบ่งชีหลายอย่าง
ที่ทำให้เกิดความน่ากังวลมีรถของตม.ไปที่สวนพลู ยอมรับว่ามีข้อสงสัยที่ต้องกังวล ในการส่งกลับไปจะเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก เพราะถ้าติดตามข่าวจะเห็นว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน ดังนั้นมันก็อาจจะทำให้เกิดบรรยากาศ ที่ตึงเครียด ระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศไทยได้ และต้องยอมรับว่าไทยมีบทบาทในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งชาติการที่เราส่งอุยกูร์ อาจจะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีแน่นอน
จะเกิดคำถามว่าบทบาทของประเทศไทยต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นอย่างไร และไทยมีกฎหมายภายใน เรามีกฎหมายป้องกันการซ้อมทรมานและการสูญหาย หนึ่งในมาตรการคือเราจะไม่ส่งคนที่เรารู้ดี ว่าส่งไปแล้ว จะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือร่างกาย การส่งไปแบบนี้จะไม่สามารถทำได้ เป็นการละเมิดกฎหมายไทยและกฎหมายต่างระหว่างประเทศ
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนหนักใจมาก ถ้าจำกันได้ที่ผ่านมาเราเคยส่งอุยกูร์ กลับไปก่อนหน้านี้ แล้วมีเหตุระเบิด ตนไม่อยากทำนาย แต่มองด้วยความเป็นห่วง ว่าการส่งอุยกูร์กลับไปให้จีนจะมีผลกระทบหลากหลายรูปแบบมาก เมื่อวิเคราะห์แล้วรู้สึกแปลกใจมากที่รัฐบาลตัดสินใจส่งอุยกูร์ ได้แต่ภาวนาไม่อยากให้เป็นเรื่องจริง
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า เมื่อวานอยู่ด้วยกัน ก็ได้ช่วยกันเช็คข่าว ยังไม่มีใครให้คำยืนยันได้เลย ตัดสินใจเดินทางไปสังเกตการณ์หน้าศูนย์กักตัวที่สวนพลูและเราก็พบข้อสังเกตและพบความผิดปกติหลายอย่าง เรื่องแรกคือประตูรั้วปิด และเราได้เจอญาติผู้ต้องขังคนหนึ่งแจ้งกับเราว่าปิดศูนย์ 2 วัน โดยให้เหตุผลว่านายมาเยี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอันที่ 3 มีเรื่องรถขนคนที่ถอยหลังเข้ามา 2 คันใหญ่ ซึ่งพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติ ก็ไม่ได้
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า เมื่อวานอยู่ด้วยกัน ก็ได้ช่วยกันเช็คข่าว ยังไม่มีใครให้คำยืนยันได้เลย ตัดสินใจเดินทางไปสังเกตการณ์หน้าศูนย์กักตัวที่สวนพลูและเราก็พบข้อสังเกตและพบความผิดปกติหลายอย่าง เรื่องแรกคือประตูรั้วปิด และเราได้เจอญาติผู้ต้องขังคนหนึ่งแจ้งกับเราว่าปิดศูนย์ 2 วัน โดยให้เหตุผลว่านายมาเยี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ อันที่ 3 มีเรื่องรถขนคนที่ถอยหลังเข้ามา 2 คันใหญ่ ซึ่งพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติ ก็ไม่ได้รับข้อมูล
จากนั้นตนได้รับข้อมูลตอนตี 1 และตี 2 จากคนที่เฝ้าอยู่ คือ มันเป็นเรื่องที่ผิดสังเกตจริงๆเพราะรถตู้ ตม.ปิดเทปดำ และเป็นขบวนรถหลายคันมีผู้สื่อข่าวหลายท่าน พยายามติดตามรถคันนี้ขึ้นทางด่วนแต่พอรถขึ้นทางด่วนไปแล้ว ทางด่วนกลับปิดให้บริการ ทำให้ผู้สื่อข่าวไม่สามารถตามไปได้ และในตอนเช้าเรามาพบว่า มีไฟท์บินปริศนาไปยังประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ตนได้รับทราบด้วยว่าทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะเข้าไปตรวจเยี่ยมที่ศูนย์กักตัวที่สวนพลู เพื่อยืนยันข้อมูลทั้งหมด และพยายามที่จะ ประสานถึงนายกฯและนายภูมิธรรม เวชยชัยและตนมั่นใจว่าการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นเรื่องฝ่ายการเมือง การกระทำในครั้งนี้เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตัวไม่ทราบว่าท่านเอาอะไรไปแลกเปลี่ยน คนที่จะต้องตอบคำถาม
ต่อวิกฤตการณ์นี้ที่สุดคือนายกฯ ควรจะออกมาชี้แจงหรือพยายามปฏิเสธอะไรก็แล้วแต่ ออกมาโดยเร็ว เราจะได้รู้ชะตากรรมว่า ชาวอุยกูร์ ที่ถูกกับตัวอยู่ที่ประเทศของเรา ตอนนี้เขามีชีวิตอยู่อย่างไรจากนี้ตนจะใช้กลไกในสภาเท่าที่จะมีอยู่ในการไต่สวนข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า จะมีการเสนอญัตติด่วนในที่ประชุมเลยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการหารือเสนอญัตติด่วนเมื่อถามว่าการส่งชาวอุยกูร์กับครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนกับการส่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้จีนหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่อยากจะประเมินแบบนั้น สิ่งสำคัญตอนนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะออกมาชี้แจง
เพราะตอนนี้มันเป็นการเอาคนไทยไปอยู่บนความเสี่ยง เหมือนคล้ายกับว่าคนไทยตกเป็นตัวประกันของเรื่องนี้ รัฐบาลควรเร่งทำความเข้าใจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





