“สมชาย” แนะกกต.นับคะแนนเลือกสว.ใหม่-ชี้มีหลักฐานฮั้ว
“สมชาย” แนะ กกต. นับคะแนนเลือก สว. ใหม่ และตรวจคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ชี้ มีหลักฐาน ฮั้ว บล็อคโหวตจำนวนมาก เชื่อ ประกาศรับรองล่าช้า
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ทางคณะกรรมาธิการได้ติดตามมาตลอด ทั้งเรื่องการลงคะแนนที่เห็นปัญหาเช่นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เห็นชัดเจนว่าการไม่เลือกตัวเองเยอะมาก ในลักษณะการฮั้วและไม่บล็อกโหวต และที่ จังหวัดตรัง น่าจะมีการบล็อคโหวต ส่วนที่มีหลักฐานชัดเจน คือภาพบันทึกวิดีโอและภาพถ่าย และตัวอย่างบัตรที่มีกันฮั้วและการซื้อเสียงลงคะแนนที่อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ในก่อนการเลือกระดับอำเภอ ซึ่งประชาชนได้ส่งหลักฐานมาให้ทางกรรมาธิการ
นอกจากนี้ จะติดตามถึงการใช้อำนาจหน้าที่ กกต. ที่มีข้อสงสัยมากเกี่ยวกับการบล็อกโหวต ซึ่งตนได้เรียกร้องให้ กกต. นับคะแนนใหม่ เช่นเดียวกับที่เคยนับคะแนนใหม่ในการเลือก สว. เขตบางเขนซึ่งขณะนี้ได้มีผู้ไปร้องเรียนแล้ว และได้ยื่นไปยังศาลฎีกาแล้ว ทั้งเรื่องการลงคะแนน และการขานคะแนนไม่ลับ เรื่องการฮั้ว การบล็อคโหวต ซึ่งศาลได้ยกคำร้อง แต่ศาลได้บอกว่าให้ผู้ร้องไปร้องที่ กกต. ตามกฏหมาย ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นว่า สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย เพราะกกต. มีหน้าที่ต้องทำให้การเลือก ต้องสุจริตและเที่ยงธรรม ถ้า กกต. เปิดการนับคะแนนใหม่ก็จะเห็นชุดบัตรลงคะแนนที่เลขเหมือนกันหมดทุกเลข
โดยแหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้สมัครระดับประเทศ ยืนยันว่ามีการทำโพยเข้าไปในการเลือกและเกิดบล็อกโหวตตามนี้โดยใช้ระบบการคำนวณคอมพิวเตอร์ และแจกให้กับผู้เลือกแต่ละคน ซึ่งตนไม่รู้ว่าแจกให้อย่างไร นายสมชาย กล่าว่า กกต. ดูกฎหมาย ก็เห็นแล้วว่าขณะนี้มีความไม่โปร่งใส ทางออกประการที่หนึ่ง คือเปิดนับคะแนนใหม่ต่อหน้าสื่อมวลชน และถ่ายทอดสด ก็จะได้เห็นการเรียงชุดบัตร อย่างที่ตนเห็น ซึ่งสันนิษฐานได้แล้วว่า เกิดกระบวนการบล็อกโหวต ซึ่งเมื่อสันนิษฐานแล้ว กกต. ก็มีสิทธิ์วินิจฉัยว่า การเลือกไม่สุจริตและสั่งให้มีการเลือกใหม่ได้ ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นาน
และประการที่สอง เลขาฯ แถลงแล้วว่า จะตรวจคุณสมบัติและประสบการณ์ใหม่ จำนวน 200 คน กับ 100 คน ตนบอกว่า ไม่ได้ และเห็นว่าต้องตรวจจำนวน 48,117 คนใหม่เพราะเห็นว่าที่ผ่านเข้าไประดับอำเภอ ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม เช่น เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ,เป็นผู้พิพากษาสมทบ,เป็น อสม. ,เป็นสื่อมวลชนที่มีหุ้นสื่อ รวมถึงมีคุณสมบัติที่ไม่ตรงกับประสบการณ์ โดยมีการสมัครที่ไม่ตรงกับกลุ่ม ซึ่งตนไม่ได้ดูถูกแต่ละอาชีพ เช่น แม่บ้าน รปภ. แต่ต้องสมัครกับกลุ่มที่ถูกต้อง ไม่ใช่สมัครข้ามกลุ่ม
ดังนั้น ทางที่ดี กกต.ต้องชะลอการประกาศรับรอง ไม่มีกฎหมายมาตราใดในรัฐธรรมนูญบังคับให้กกต. ต้องเร่งประกาศ สว. ไม่ได้กำหนดระยะเวลา ซึ่งถ้าใช้เวลาช้าไปอีกในการตรวจสอบเชื่อว่าจะได้รับความน่าเชื่อถือ เพราะขณะนี้ยังมีการเคลือบแคลงสงสัยจำนวนมาก ถ้า กกต. เดินหน้าไปโดยไม่ตรวจสอบและเกิดการทุจริต กกต.ก็มีสิทธิ์ที่จะถูกดำเนินคดีและตนก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือน กกต. ในอดีต
ขณะเดียวกัน หากแก้ปัญหาด้วยการนับคะแนนใหม่ก่อน ให้รีบทำในรอบประเทศ เพราะยังมีเวลา และการตรวจคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม ต้องตรวจทั้งประเทศใหม่ และให้ท่านตัดสินใจว่า จะให้การเลือกครั้งนี้ โมฆะทั้งหมด และเห็นว่าต้องให้ไปเลือกใหม่ หรือเห็นว่าถูกต้องแล้ว ลุยไปก่อน แล้วค่อยไปสอยเอาข้างหน้า ก็แล้วแต่ กกต.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





