fbpx
Home
|
ข่าว

“รังสิมันต์” ชี้ยกฟ้อง “ตุนมินหลัด” ฟอกเงินส่งผลคดี “สว.อุปกิต”

Featured Image

 

 

 

 

“รังสิมันต์” ชี้ ยกฟ้องคดี “ตุนมินหลัด”สมคบฟอกเงิน ส่งผลต่อคดี”สว.อุปกิต” พร้อมเปิดคลิปเสียงเตรียมนำสู่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

 

 

 

 

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อกรณีการยกฟ้องคดีตุนมินหลัด ซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีความผิดฐานสมคบค้าและสมคบฟอกเงิน เนื่องจากคดีนี้จะมีผลต่อคดีของ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยใช้เวลาในการแถลงกว่า 1 ชั่วโมง

 

นายรังสิมันต์ ได้เริ่มต้นนำคลิปเสียงมาเปิดต่อสาธารณะ และกล่าวก่อนการเปิดคลิป หวังว่า คลิปเสียงนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จะนำไปสู่การดำเนินการในสิ่งที่ถูกที่ควรต่อไป เนื่องจากคลิปเสียงนี้ จะแสดงให้เห็นว่ามีการวิ่งเต้นของผู้มีอำนาจ โดยนายรังสิมันต์ กล่าวถึงคลิปเสียงแรกว่า เป็นการเลี่ยงภาษีของนักการเมืองและนักธุรกิจชาวไทย

 

ซึ่งไม่ยอมนำเงินที่ได้จากการทำธุรกิจที่เมียนมา มาเสียภาษี จากนั้น อธิบายคลิปที่ 2 ว่า นักธุรกิจรายหนึ่งมีการใช้นอมินีทำธุรกิจแทนตนเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะปิดบังทำไม หากเป็นการทำธุรกิจที่สุจริต ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่นักธุรกิจรายนี้เลี้ยงดูปูเสื่อครอบครัว โดยซื้อคอนโดให้แก่มินอ่องลาย เพื่อให้นักธุรกิจรายนี้มีสิทธิพิเศษในการทำธุรกิจ ส่วนคลิปที่ 3 นายรังสิมันต์ ระบุว่า มีการพูดถึงความเชื่อมโยงของนักการเมืองบางกลุ่มกับภาคเอกชน ซึ่งทำให้เห็นถึงเครือข่ายชนชั้นนำที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง

 

สำหรับคลิปที่ 4-5 พบว่า นักธุรกิจคนนี้ อวดอ้างว่า สามารถเคลียร์คดี และช่วยพรรคพวกของตัวเองไม่ให้ถูกดำเนินคดีได้อีกด้วย ซึ่งตนคิดว่า ขบวนการที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ เป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง

 

นายรังสิมันต์ ชี้ว่า ประเทศเรามีอะไรมากกว่าที่พวกเราเห็น วันนี้เรามีปัญหาสิ่งผิดกฎหมายตามชายแดน มีเครือข่ายบางอย่างที่ทอดเงาอยู่เบื้องหลัง หน้าฉากก็แสดงเป็นคนดีบีบน้ำตา ส่วนฉากหลังจ้องแต่จะทำเรื่องผิดกฎหมายร้ายแรง ใช้คอนเนคชั่นที่ตัวเองมีช่วยเหลืออุ้มชูพวกเดียวกันให้อยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่ยังรอคอยให้รัฐบาลแก้ไข

 

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เพื่อไม่ให้กฎหมายถูกนำมาใช้กับประชาชนตาดำๆ เพียงอย่างเดียว ตนอยากฝากไปถึงผู้ที่ถูกอ้างถึงในคลิปเสียงนี้ หวังว่าพวกท่านจะไม่ทำสิ่งที่เลวร้ายให้แก่ประเทศชาติมากไปกว่านี้เลย

 

นายรังสิมันต์ กล่าวถึงความเชื่อมโยงกับคำพิพากษาของคดีทุน มินลัต ซึ่งเป็นการกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และความผิดเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากคำพิพากษาในคดีตุนมินหลัดฉบับนี้ จะมีผลต่อบรรทัดฐานทางกฎหมายของประเทศไทยเป็นอย่างมาก

 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนขอถามกลับไปยังศาลสถิตย์ยุติธรรม ว่าตกลงแล้ว คดีที่เกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงิน ควรจะมีบรรทัดฐานอย่างไร เท่ากับว่าหากยึดบรรทัดฐานเดียวกับทุนมินลัต คนอย่างวรวัฒน์ที่ถูกศาลพิพากษาประหารชีวิต เขาก็ไม่ควรถูกตัดสินแบบนี้ แต่หากบอกว่าบรรทัดฐานที่ถูกที่ควร คือ ตามที่วินิจฉัยไว้ในคดีวรวัฒน์ ซึ่งตนไม่เห็นว่าคำพิพากษาคดีพวกทุนมินลัต จะออกมาสอดคล้องกับคดีวรวัฒน์แต่อย่างใด ตกลงแล้วบรรทัดฐานของศาลอยู่ที่ไหน

 

และหากปล่อยให้ถูกยึดไปเป็นบรรทัดฐานในการพิพากษาคดีในอนาคต จะทำให้การจับพวกค้ายาเสพติด และการฟอกเงินจากยาเสพติด กลายเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ เท่าที่ตนทราบมา ตนได้ยินแว่วๆ มีความพยายามวิ่งเต้นให้อัยการไม่อุทธรณ์ ซึ่งผมก็หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมันมีความจำเป็นที่จะต้องสู้คดีให้ถึงที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจของคดีนี้ ยังมีต่อไปด้วยกันอีก 2 ประเด็น คือ ในคดีนี้ศาลได้ชี้ให้เห็นว่า การทำธุรกิจของเครือข่ายอัลลัวร์ ที่ทำกันทั้งไทย และเมียนมา จะพบว่านายอุปกิต ซึ่งเป็น สว. ศาลเขียนไว้ในคำพิพากษาว่า “ อุปกิตมีการเชิดนายดีน ลูกเขยของตัวเอง ให้ถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทในเครืออัลลัวร์แทนตน ในช่วงเวลาที่ตนเองดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา”  จึงหมายความว่า ขณะที่นายอุปกิต เป็น สว. ก็ยังมีสถานะเป็นเจ้าของกิจการในเครืออัลลัวร์อยู่ทั้งหมดใช่หรือไม่ ซึ่งหากเป็นจริง นายอุปกิตอาจจะเข้าข่ายยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ

 

นายรังสิมันต์ ระบุว่า เรื่องของการยื่นบัญชีเท็จ ตนเคยยื่นร้องกับ ป.ป.ช.ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2566 ผ่านมาแล้วเกิน 180 วัน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาปีกว่าแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งที่เอกสารทุกอย่างก็มีความชัดเจน

 

ดังนั้น คิดว่า ป.ป.ช. มีความขยันขันแข็งในคดีของ 44 สส. พรรคก้าวไกล มีการออกมาให้ข่าวว่าอยู่ในกรอบ 180 วัน ตนก็อยากจะทราบจริงๆ ว่า คดีที่มีการกระทำที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 184(2) การยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ผิดพ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ความผิดเรื่องของจริยธรรม ป.ป.ช. จะทำงานได้อย่างรวดเร็วอย่างที่กำลังต่อคดี 44 คนหรือไม่

 

นอกจากนี้ ตนจะนำคำพิพากษาฉบับดังกล่าวไปยื่นต่อ กกต. เพิ่มอีก 1 หน่วยงานด้วย เนื่องจากอยู่ในอำนาจของ กกต. ที่จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากพบว่ามีเหตุให้สมาชิกภาพของสว. สิ้นสุดลง ตามมาตรา 82 วรรคท้าย จากการทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 (2) และมาตรา 185 (1) ซึ่งผมหวังว่ากกต.จะใช้เวลาพิจารณาไม่นานเหมือนกับที่พิจารณาคดีพรรคก้าวไกล

 

จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ สว.ใกล้หมดวาระ จะมีผลผูกพันอะไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงต้องลองดู สว.จะหมดวาระ 11 พ.ค. ถ้าเทียบเคียงจากคดีของพรรคก้าวไกล หรือคดีของ 44 สส. ต้องบอกว่าหน่วยงานองค์กรอิสระทั้งหลายทำหน้าที่ได้รวดเร็วมาก ตนก็อยากจะรู้ว่า จะทำงานรวดเร็วแบบนั้นหรือไม่ มากไปกว่านั้น คือความผิดสำเร็จแล้ว ก็เอาผิดได้ แม้ในท้ายที่สุดกระบวนการอาจจะเนิ่นนานและพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่หากความผิดสำเร็จแล้ว ก็สามารถดำเนินการได้ ในส่วนคดีของนายอุปกิต ซึ่งถูกฟ้องในลักษณะเดียวกันก็คงต้องไปดูว่าสุดท้ายแล้ว ศาลจะตัดสินเรื่องนี้อย่างไร

 

นอกจากนี้ เครือข่ายยาเสพติดขณะนี้ มีความซับซ้อน ไม่คุยกันในแชตแล้วว่า จะมีการส่งยา หรือหากมีก็จะมีเพียงแค่บางระดับ ที่ไม่ใช่ระดับบิ๊กบอส ฉะนั้น ตนคิดว่าเราต้องช่วยกันสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่กมธ.ความมั่นคงฯ จะสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะไม่ได้มีอำนาจหรือหน้าที่ชี้ขาดทางกฎหมาย จึงต้องให้ศาลที่จะเป็นคนสร้างบรรทัดฐาน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube