นพ.แท้จริง จี้รัฐตั้งคกก.ประเมินผลได้-เสีย เปิดผับตี 4
นพ.แท้จริง จี้รัฐตั้งคกก.ประเมินผลได้-เสีย เปิดผับตี 4 ชี้ ได้ไม่คุ้มเสีย หากมีอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับเพิ่มขึ้น ประชาชนเสียชีวิต แม้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็ตาม
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยกับสำนักข่าว INN กรณีนโยบายเปิดผับถึงตี 4 ว่า มูลนิธิหนักใจกับนโยบายนี้เป็นอย่างมาก เพราะเดิมเปิดแค่ตี 2 ก็ยังไม่สามารถควบคุมคนเมาไม่ให้ขับรถได้ เมื่อขยายเป็นตี 4 ก็ยิ่งหนักใจ กังวลว่า จำนวนอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงใหม่ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย คนที่กำลังเดินทางไปทำงาน, ผู้ปกครองที่จะส่งลูกไปโรงเรียน,นักวิ่งเพื่อสุขภาพ และพระภิกษุ ที่ออกบิณฑบาตร
นพ.แท้จริง ยังมองว่าขณะนี้นโยบายเปิดสถานบริการถึงตี 4 มีความชัดเจนด้านนโยบายและเศรษฐกิจ เพียงด้านเดียว แต่ไม่มีความชัดเจนด้านสังคม เรื่องการควบคุมคนเมา มาตรการที่เห็นชอบออกมา เช่น ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ก่อนออกจากร้าน ให้ร้านจัดที่พักคอยจนกว่าจะสร่างเมา เป็นเพียงแค่ขอความร่วมมือ แต่ไม่มีการออกกฎหมายใดๆ มาควบคุม และถ้าเพียงขอความร่วมมือเช่นนี้ ไม่ต้องรอให้เปิดถึงตี 4 ก็ขอความร่วมมือได้ ในทางกลับกันรัฐไม่ควรโยนภาระมาให้ผู้ประกอบการ เพราะผู้ประกอบการไม่มีอำนาจ ที่จะไปตรวจ ไปบังคับลูกค้าได้
อย่างไรก็ตาม นพ.แท้จริง ยังกล่าวด้วยว่า อยากให้รัฐบาล ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาควบคุม และติดตามผลของนโยบายดังกล่าว ประเมินผลได้ ผลเสีย ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมด้วย เพราะว่า หากได้ประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจจริง แต่แลกมาด้วยชีวิตของประชาชน จากอุบัติเหตุเมาแล้วขับที่เพิ่มขึ้น นโยบายนี้ก็จะได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน รัฐบาลต้องไปหาวิธีการใหม่ มาป้องกันไม่ให้มีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เคยเรียกร้องถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใน 3 ข้อ คือ 1.ออกกฎหมายให้มีการเอาผิดสถานบริการที่ปล่อยให้มีคนเมา ออกมาจากร้านแล้วเกิดอุบัติเหตุ 2.เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต ต้องมีการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น และ 3.ทำให้เห็นถึงการใช้กฎหมายที่เข้มงวด เพื่อให้คนเห็นว่าเมื่อเมาแล้วขับ จะมีคุกรออยู่ข้างหน้า ซึ่งรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้ชัดเจน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
