Home
|
ข่าว

“ชัยชนะ” อัดมหาดไทยปรับเกณฑ์เบี้ยผู้สูงอายุ-ลักหลับปชช.

Featured Image
“ชัยชนะ” อัดมหาดไทยปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ลักหลับประชาชน หวั่น คณะกรรมการ กผส. ตีเช็คเปล่า ไม่คำนึงข้อเท็จจริง แนะกลับไปใช้หลักเกณฑ์เดิม

 

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2566 โดยสาระสำคัญคือ ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ จากไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาเป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด ว่า

 

 

การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ดังกล่าว ถือเป็นการสร้างความสับสนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา เกณฑ์ที่ตั้งไว้แต่เดิมก็เป็นที่เข้าใจของประชาชนอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการประกาศเกณฑ์ใหม่ กำหนดให้ กผส. เป็นผู้กำหนดนั้น ตนมองว่า อาจจะเป็นการตีเช็คเปล่าให้ กผส. กำหนดเกณฑ์ได้ตามใจชอบ โดยไม่ได้อ้างอิงกับความเป็นจริงของปัญหาในผู้สูงอายุแต่ละพื้นที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ รวมทั้ง การออกระเบียบดังกล่าว เป็นการออกประกาศแบบที่ประชาชนไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน เปรียบเสมือนเป็นการลักหลับ โดยมาเฉลยทีหลังว่า ต่อจากนี้ไป ผู้สูงอายุที่ยากจนอาจจะไม่ได้เบี้ยยังชีพทุกคน ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ทางกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการปรับเปลี่ยนระเบียบฯ โดยกลับไปใช้เกณฑ์เดิมที่ประชาชนคุ้นเคยกันดี เกี่ยวกับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และการออกระเบียบใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ๆ ไม่ใช่มาออกระเบียบแบบที่ไม่ให้ใครตั้งตัว จนเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้

 

ทั้งนี้ เรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนทั่วไปหรือแม้แต่พรรคการเมืองแทบทุกพรรค ต่างยอมรับว่า ต้นตำรับนโยบายนี้มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ในสมัยที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มในปี 2536 ที่ 200 บาทต่อเดือน โดยให้เป็นการสงเคราะห์ต่อผู้สูงอายุผู้ยากไร้ และพัฒนามาจนเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน สามารถมีสิทธิในการขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ รวมทั้ง มีการจ่ายเบี้ยเป็นขั้นบันได จนถึง 1,000 บาท สำหรับผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป ซึ่งเกณฑ์ยกเว้นสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ก็มีความชัดเจนจนเป็นที่เข้าใจกันอยู่แล้ว และในบางรายที่มีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตามเกณฑ์ ก็มีการสละสิทธิ์ให้ผู้สูงอายุรายอื่นได้รับเบี้ยฯ อันเนื่องมาจาก ลูกหลานสามารถดูแลผู้สูงอายุดังกล่าวได้มากกว่าจำนวนเบี้ยยังชีพที่ได้รับ แต่เมื่อมีการปรับเกณฑ์ให้คณะกรรมการ กผส. เป็นผู้กำหนดนั้น ผมมองว่า อาจจะมีปัญหาความไม่เข้าใจของ กผส. ซึ่งอาจจะนิยามคำว่า ‘เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ’ คลาดเคลื่อนกับความเป็นจริง รวมทั้ง ตนเชื่อว่า การที่ออกระเบียบฯ ใหม่ โดยไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมเลยนั้น ถือได้ว่า เป็นการส่อเจตนาหมกเม็ด และเป็นการละเมิดสิทธิของผู้สูงอายุตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติคุ้มครองเอาไว้ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube