“สีหศักดิ์” ถก 3ฝ่าย ไทย-จีน-กัมพูชา บรรลุผลตามคาด มั่นใจเดินถูกทาง
“สีหศักดิ์” ถก 3 ฝ่าย ไทย-จีน-กัมพูชา บรรลุผลตามคาด มั่นใจเดินถูกทาง แก้ปัญหาชายแดน จ่อออกแถลงการณ์ร่วม ย้ำจีนแค่อำนวยความสะดวกไม่แทรกแซง ดึงICRC เป็นพยานส่งตัว 18 เชลยศึก
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือสามฝ่าย ระหว่างไทย จีน และกัมพูชา โดยมีนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เข้าร่วม ที่เมืองยวี่ซี มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ผลการหารือเป็นไปด้วยดี และถือว่าฝ่ายไทยบรรลุผลตามที่คาดหวังไว้
นายสีหศักดิ์ ระบุว่า บทบาทของจีนในการหารือครั้งนี้ไม่ได้เป็นการแทรกแซงปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชา แต่เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกด้านสถานที่และการเปิดพื้นที่ให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันโดยตรง พร้อมย้ำจุดยืนของไทยว่า ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชาจะต้องได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาระหว่างสองประเทศ แม้ประเทศที่สามจะมีความปรารถนาดี แต่ในท้ายที่สุด การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต้องเกิดจากความตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญในขณะนี้คือการทำให้ข้อตกลงหยุดยิงมีความยั่งยืน โดยทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด ไม่ก่อเหตุยั่วยุ ไม่สร้างความได้เปรียบในพื้นที่ และต้องมุ่งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงซ้ำอีก
นายสีหศักดิ์ ยังเน้นย้ำว่า ความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดนเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากนั้นจึงจะสามารถเดินหน้าสู่ขั้นตอนถัดไป ได้แก่ การลดการเผชิญหน้า การลดกำลังทหารของทั้งสองฝ่าย การถอนอาวุธหนัก และการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว
นอกจากนี้ การหารือยังครอบคลุมถึงความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะขบวนการหลอกลวงออนไลน์หรือสแกมเมอร์ ซึ่งส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ต่อไทยและกัมพูชา แต่ยังลุกลามไปยังประเทศและภูมิภาคอื่นด้วย
ในส่วนของกระบวนการทางเทคนิค นายสีหศักดิ์ ระบุว่า คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) จะเป็นกลไกสำคัญในการเดินหน้าการปักปันเขตแดน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา และต้องอาศัยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องจากทั้งสองฝ่าย
สำหรับประเด็นเชลยศึก นายสีหศักดิ์เปิดเผยว่า หากการหยุดยิงตลอด 72 ชั่วโมงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไทยจะเริ่มกระบวนการส่งมอบทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย กลับประเทศ โดยมีคณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) ทำหน้าที่เป็นสักขีพยาน เพื่อยืนยันว่าทหารกัมพูชาได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมระหว่างอยู่ในการดูแลของฝ่ายไทย พร้อมกันนี้ ไทยยังขอให้ฝ่ายกัมพูชาพิจารณาอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่อาจติดค้างอยู่บริเวณปอยเปตสามารถเดินทางกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย
ส่วนความกังวลในการดำเนินการขั้นต่อไป นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ทุกขั้นตอนต้องดำเนินไปอย่างรอบคอบ ไม่ควรเร่งรีบ โดยต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นและความจริงใจต่อกัน หากการหยุดยิงมีความยั่งยืน ก็จะสามารถเดินหน้าสู่การลดความตึงเครียด การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในระดับต่าง ๆ ได้อย่างเป็นลำดับ
นายสีหศักดิ์ ยังย้ำอีกว่า จีนไม่ได้เข้ามาชี้นำหรือกำหนดทิศทางการเจรจา แต่เพียงสนับสนุนให้เกิดการพูดคุยบนพื้นฐานความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเห็นตรงกันว่าหากข้อตกลงใดเกิดจากแรงกดดันหรือการชี้นำจากประเทศที่สาม ย่อมไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว
ภายหลังการหารือ จะมีการออกแถลงการณ์ร่วมของทั้งสามฝ่าย เพื่อสรุปผลการประชุมและกำหนดแนวทางการเดินหน้าต่อไป โดยนายสีหศักดิ์ยืนยันว่า การแถลงร่วมจะช่วยให้ทุกฝ่ายมีท่าทีสอดคล้องกัน และลดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสังคม พร้อมย้ำว่า ปัญหาไทย-กัมพูชาในขณะนี้ถือว่า “เดินมาถูกทางแล้ว” แม้ยังมีประเด็นที่ต้องพูดคุยกันต่อไป แต่ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามจังหวะและความพร้อมของทั้งสองประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





