ตร.ส่ง EOD ร่วมสแกนพื้นที่ชายแดน หลังไทย-เขมร ลงนามหยุดยิง
ภายหลังการประชุมจีบีซี ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3/68 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ด่านชายแดนบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรีโดย ไทย และกัมพูชา ทำข้อตกลงหยุดยิง โดยทั้งสองฝ่ายยังคงกําลังทหารในพื้นที่ระดับปัจจุบัน โดยต้องไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือเสริมกําลังเพิ่มเติมเข้าหากัน และไม่มีการโจมตีหรือยั่วยุซ้ำให้ติดตามเฝ้าสังเกตการณ์การหยุดยิง 72 ชั่วโมง เพื่อยืนยันว่าการหยุดยิงเกิดขึ้นจริงและมีความต่อเนื่องก็ต่อเมื่อสถานการณ์สงบลงประชาชนจะสามารถกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยได้อย่างปลอดภัย จากนั้นจะมีการปล่อยตัวทหารกัมพูชาทั้ง 18 นาย ทั้งนี้เป็นไปตามหลักสากลที่กําหนดให้ปล่อยตัวเมื่อสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์
ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมปฎิบัติงานร่วมกับฝ่ายมั่นคงทางการทหาร เพื่อตรวจสอบพื้นที่ตามแนวชายแดน ทางด้าน พล.ต.ต.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายลง โดยเน้นย้ำภารกิจหลักในการฟื้นฟูความปลอดภัยเพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับมอบภารกิจให้ดูแล “พื้นที่ส่วนหลัง” ซึ่งครอบคลุมทั้งชุมชน หมู่บ้าน และพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ ซึ่งภารกิจสำคัญในขณะนี้คือการเร่งสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวาดล้างวัตถุอันตรายตกค้าง โดยตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ได้รับมอบหมายให้บูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เข้าปูพรมตรวจสอบเส้นทางคมนาคมหลัก พื้นที่การเกษตร และชุมชนที่อยู่อาศัย เพื่อค้นหาและทำลายวัตถุระเบิด หรือลูกกระสุนที่อาจตกค้าง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่
นอกจากนี้ พล.ต.ต.จตุรภัทร์ฯ กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัย ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่เริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักอาศัย หากพบเห็นวัตถุแปลกปลอมที่มีลักษณะคล้ายวัตถุระเบิด หรือชิ้นส่วนกระสุนปืนใหญ่ “ห้ามเข้าไปสัมผัส หยิบจับ หรือเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาด” เนื่องจากวัตถุดังกล่าวยังอาจมีอานุภาพทำลายล้างและเกิดระเบิดได้ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนเว้นระยะห่างจากจุดที่พบวัตถุต้องสงสัย และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน 191 และ 1599 ทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าดำเนินการตรวจสอบและเก็บกู้ตามหลักยุทธวิธี
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ภารกิจของตำรวจในพื้นที่ชายแดนขณะนี้ คือการเปลี่ยนจากสถานการณ์วิกฤติสู่สภาวะปกติ ตำรวจจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายปกครองและกองทัพ เพื่อให้พื้นที่ส่วนหลังมีความปลอดภัยสูงสุด ประชาชนสามารถกลับมาประกอบอาชีพและค้าขายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนได้ดังเดิม สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันว่า เราจะไม่ละทิ้งพื้นที่จนกว่าจะมั่นใจว่าทุกตารางนิ้วปลอดภัยสำหรับประชาชน
ขณะที่กองกำลังบูรพา และจังหวัดสระแก้ว ได้หารือกำหนดแนวทางการอพยพประชาชน ใน 4 อำเภอ ชายแดน จ.สระแก้ว กลับเข้าที่พักอาศัยของตน ภายหลังสถานการณ์คลี่คลาย โดยคำนึงถึงบริบทพื้นที่และความปลอดภัยเป็นสำคัญ “โดยสามารถกลับเข้าพื้นที่พักอาศัยของตนได้ ตั้งแต่ 31 ธ.ค.68 เป็นต้นไป ” ยกเว้น 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านคลองแผง, บ้านตาพระยา, บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน เพื่อให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ลงพื้นที่ตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่ก่อนประชาชนเดินทางกลับ โดยจะแจ้งให้ทราบห้วงต่อไปขอให้รับฟังข่าวสารและการแจ้งประกาศจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





