Home
|
ทั่วไป

หลักการสำคัญประชามติ คืออะไร ทำไมประชาชนต้องมีส่วนร่วม?!

Featured Image

 

เนื่องจากวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส.พร้อมกับการออกเสียงประชามติในวันเดียวกัน

 

ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ประชาชนจะได้ใช้สิทธิทางการเมืองมากกว่าการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ให้จัดการออกเสียงประชามติควบคู่กับการเลือกตั้ง สส.ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ โดยกำหนดคำถามประชามติว่า

 

“ท่านเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่”เลือกตั้งครั้งนี้ ใช้บัตร 3 ใบ

 

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องใช้บัตรลงคะแนนทั้งหมด 3 ใบ ได้แก่
1.บัตรเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขต
2. บัตรเลือกตั้ง สส. แบบบัญชีรายชื่อ
3. บัตรออกเสียงประชามติ

 

ในส่วนของประชามติ เป็นการลงคะแนนเพื่อแสดงความเห็นว่าเห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยผู้มีสิทธิออกเสียงต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่า ด้วยการออกเสียงประชามติ

 

แล้ว “ประชามติ” คืออะไร?

 

ประชามติ คือ การให้ประชาชนทั้งประเทศ ลงคะแนนเสียงเพื่อแสดงความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ในเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อประเทศชาติ สิทธิ และเสรีภาพของประชาชน

 

ในทางรัฐธรรมนูญ ประชามติถือเป็น กลไกของประชาธิปไตยทางตรง ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนตัดสินใจด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง

 

หลักการสำคัญของการออกเสียงประชามติ การทำประชามติต้องยึดหลักสำคัญ เช่น เรื่องที่นำมาทำประชามติต้องเป็นเรื่องใหญ่ และกระทบต่อประเทศหรือประชาชนโดยรวม ,คำถามต้องชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่คลุมเครือ , เปิดโอกาสให้ทั้งฝ่ายเห็นชอบและไม่เห็นชอบ แสดงความเห็นอย่างเท่าเทียม, การลงคะแนนต้องเป็นไปอย่างอิสระ ไม่มีการบังคับหรือชี้นำ,และผลประชามติ ต้องถูกนำไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ของประชาชน

 

และ การออกเสียงประชามติครั้งนี้ อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เป็นการปรับปรุงกฎหมายเดิมเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนและกำหนดให้การเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปอย่างรอบด้าน เท่าเทียม และไม่ชี้นำ

 

กฎหมายยังกำหนดบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ในการจัดการออกเสียงประชามติ ทั้งการจัดหน่วยออกเสียง คูหาและเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่าย
แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี

 

กกต. เตรียมเปิดลงทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ

 

คุณวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการ กกต. ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องประกาศให้มีการออกเสียงประชามติ ภายในวันที่ 2 มกราคม 2569

 

จากนั้น กกต. จะเปิดให้ผู้มีสิทธิ ลงทะเบียนออกเสียงประชามติ ระหว่างวันที่ 3–5 มกราคม 2569 ผ่านระบบออนไลน์

 

การออกเสียงประชามติ ทั้งในและนอกราชอาณาจักร จะจัดขึ้นในวันเดียวกับการเลือกตั้ง สส. คือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 และดำเนินการในคูหาเดียวกันแล้วทำไมประชาชนต้องมีส่วนร่วม?

 

– เพื่อไม่ให้การตัดสินใจถูกผูกขาด ถ้าประชาชนไม่เข้ามามีส่วนร่วม เรื่องใหญ่ของประเทศอาจถูกตัดสินใจโดยรัฐ นักการเมือง หรือกลุ่มอำนาจเพียงไม่กี่กลุ่ม การมีส่วนร่วมจึงเป็นกลไกถ่วงดุลอำนาจที่สำคัญที่สุด

 

– สะท้อนความจริงจากชีวิตประชาชน นโยบายบนโต๊ะประชุม อาจไม่เห็นผลกระทบจริงในชีวิตคนแต่ประชาชนคือผู้ได้รับผลโดยตรง เสียงของประชาชนจึงทำให้การตัดสินใจไม่หลุดจากความเป็นจริง

 

– สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน เมื่อประชาชนได้มีส่วนร่วม ประเทศจะไม่ใช่เรื่องของ “รัฐทำกับเรา”แต่เป็น “เราตัดสินใจร่วมกัน” เป็นต้น

 

และสุดท้ายนี้ อย่างในต่างประเทศ กระบวนการออกเสียงประชามติถูกใช้เป็นเครื่องมือ รับฟังเสียงประชาชนอย่างจริงจัง เช่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เปิดโอกาส ให้ประชาชนเข้าชื่อเสนอทำประชามติ ทั้งในประเด็นตามรัฐธรรมนูญ การเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการคัดค้านกฎหมายที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบแล้ว

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube