“อนุทิน” นำทีม ภท. แถลงนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 69 แก้ปัญหาทุกมิติ “พูดแล้วทำพลัส”
“อนุทิน” นำทีม ภท. แถลงนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 69 แก้ปัญหาทุกมิติ “พูดแล้วทำพลัส” สร้างรั้วป้องกันชาติ รับสมัครทหารอาสาแสนอัตรา คลอดนโยบาย ศก. 10 พลัส อัพเกรด “คนละครึ่งพลัส” ยกระดับสินค้าไทยให้อยู่เหนือกำแพงภาษี ลั่น เลือก ภท.กลับมา ตั้ง ”ศุภจี“ นั่งรองนายกฯ คุมเรื่องการค้า ‘เอกนิติ‘ รองนายกฯ ดูนโยบายเศรษฐกิจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีรัฐรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ,นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ พร้อมกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคฯ ประชุม พร้อมแถลงนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง 2569 พร้อมเปิดตัว ผู้สมัคร สส. ทั้งระบบเขต-บัญชีรายชื่อ
นายอนุทิน กล่าวช่วงต้นว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยและสมาชิกพรรคฯ ผมอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย วันนี้มาถึงไวกว่าที่ผมคาดคิดไว้ แต่ที่ผมได้พบทุกคนความกังวลของผมได้เปลี่ยนแปลงเป็นความมั่นใจ พรรคภูมิใจไทยวันนี้มีความมั่นใจและพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งเพื่อรับใช้ประเทศไทยและประชาชน
วันนี้สมาชิกพรรคทุกคน ตนถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่สุด ตั้งแต่อยู่พรรคภูมิใจไทยมา เพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเรารู้สึกได้ว่าประชาชนตั้งความคาดไว้กับการทำงานของพรรคภูมิใจไทย ฉะนั้นไม่มีทางอื่นที่เราจะต้องมีความพร้อมสูงสุดในทุกด้านทั้งเรื่องความพร้อม ยุทธศาสตร์ นโยบาย และนี่จึงเป็นที่มาของสโลแกน “ภูมิใจไทย พูดแล้วทำพลัส”
พรรคภูมิใจไทย วันนี้ถือว่ามีประสบการณ์ครบทุกรูปแบบ ไม่ใช่เด็กละอ่อนอีกต่อไป เพราะผ่านประสบการณ์บริหาร เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง เกษตรกรรม อุสาหกรรมและการต่างประเทศ และทำให้ประเทศไทยมีที่ยืนในทุกมิติของโลก
พร้อมย้ำว่าพรรคภูมิใจไทย ที่กล้าเสนอพูดและทำพลัส เพราะหมายความว่าวันนี้พรรคมีความพร้อมสูงสุดในทุกด้านที่ทำได้จริง ทำได้เร็วและทำได้เลย
นายอนุทิน ต่ออีกว่า เราผ่านมาทุกข์ภัย และอยู่พรรคนี้มากกว่า 10 ปี ซึ่งเห็นมาตลอดว่าเราอาจขาดนู่นนี่ แต่วันนี้พรรคภูมิใจไทยได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และเราเลือกตั้งมา 3 ครั้งซึ่งทุกครั้งพรรคภูมิใจไทยเติบโตขึ้นเสมอไม่เคยเล็กลง และการเลือกตั้งครั้งนี้อย่าทำให้กราฟภูมิใจไทยตก ขอให้พุ่งขึ้นไป
พร้อมย้ำว่า เราเป็นพรรคการเมืองที่มีความพร้อมสูงสุดในการรับใช้ประชาชน พาเรามีความสามารถในการทำงานทุกภาคส่วน ทุกวิชาชีพ อย่างมีความเป็นเอกภาพและอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งในเรื่องข้าราชการ การเมือง กองทัพและประชาชน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพรรคไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย มีแต่คำว่ากำลังใจเพราะทุกครั้งที่เจอประชาชนมีแต่ความสุข ฉะนั้นเราจึงคัดสรรแต่คนที่ทำงานเป็นมาเป็นแบที่คนเข้มแข็งของพรคค ซึ่งเต็มไปด้วยคลังของนโยบายและคนทำงาน ฉะนั้นขอให้พรรคได้เข้ามาแก้ไขปัญหาให้ทุกท่าน
นายอนุทิน กล่าวว่า ภัยคุกคามประเทศไทยตอนนี้มีเพียงแค่ 4 ด้านหลักๆ อาทิ เศรษฐกิจ สังคม ภัยพิบัติและภัยความมั่น ซึ่งทุกอย่างเสียได้ แต่ขอให้อย่ากลัวเสียอธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งพรรคให้ความสำคัญกับไทยมั่นคงเป็นอันดับแรก
และเราต้องทำให้คนที่คิดร้ายประเทศไทยเป็นยำเกรงแก่คนประสงค์ร้ายกับประเทศไทย พร้อมยืนยันว่าพรรคจะตั้งรั้วของชาติเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติและป้องกันภัยในทุกด้าน อย่างแน่นอน อาทิ ภัยสงคราม ภัยยาเสพติด ภัยจากของและแรงงานเถื่อน ย้ำว่าจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศเพื่อป้องกันอาชญากรรมต่างๆ เพื่อให้คนไทยได้จดจำไปเลยว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เอาสีเทาทั้งหมด
พร้อมกับจะเปิดโอกาสทหารอาสา เพื่อรับใช้ชาติอย่างสมัครใจและมีอนาคต โดยจะเปลี่ยนเป็นคำว่าทหารเกณฑ์ เป็นทหารอาสา 4 ปี 1 แสนคน เงินเดือน 12,000 บาท เพื่อให้ได้ประชาชนที่เต็มใจมาปกป้องชายแดน โดยจะได้รับการฝึกและมีโอกาสที่ได้สอบเป็นทนายสิบ นายร้อย นายพันต่อไป ซึ่งถ้าหากประชาชนให้พรรคภูมิใจไทยกลับเข้าไปก็ทำให้ประเทศไทยมีกำลังพลที่เข้มแข็งด้วยความสมัครใจเพื่อมาปกป้องแผ่นดินของเรา
และที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทย ทำมห้ชาติพ้นจากปัญหาโปรแกรมเมอร์ แล้วจะมีนโยบายทำให้พ้นจากภัยพิบัติจากน้ำมือมนุษย์ และเราจะสร้างกองทุนภัยพิบัติแห่งชาติเพื่อดูแลประชาชนให้ดีกว่าเดิม
ส่วนเรื่องการต่างประเทศ การค้า เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งวันนี้ทุกคนก็จะได้เห็น 4 คน ที่ดูกลุ่มงานต่างๆของพรรค ภท. เพื่อทำให้ประเทศไทยที่มี ย เป็นไทยที่ไม่มี ย เป็นอิสระในเวทีนานาชาติและโลกทั้งใบ
ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ นายอนุทิน ระบุว่า ที่ผ่านมาพรรคมีเวลาเพียง 1-2 เดือน แต่ที่ผ่านมาเราก็ดันนโยบายควิกบิ๊กวิน ซึ่งเราทำโครงการคนละครึ่ง แต่เราก็ยังติดกับประชาชนอยู่ ฉะนั้นขอให้มีโอกาสกลับมาใช้หนี้กับทุกคน ซึ่งโครงการนี้จะกลับมาแบบไม่ธรรมดา เพราะมีคำว่าพลัสด้วย โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมาเสนอโครงการนโยบาย 10 พลัส
ซึ่งเราจะใช้นโยบายทางเศรษฐกิจ เพื่อให้คนไทยได้ใช้ความรู้ ความคิด ความสามารถ มาร่วมกันพัฒนาประเทศไทย เพื่อให้สินค้าของไทยแลนด์ เป็นสินค้าที่มีพลังอยู่อยู่เหนือคำว่ากำแพงภาษี และเป็นสินค้าที่ทั่วโลกต้องการ ไม่ใช้สินค้าที่ไปเร่ขาย
นายอนุทิน ทิ้งท้ายว่า นโยบายของพรรคการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ย่อย แต่จะมาเป็นองค์รวม เพื่อดูแลทุกมิติของประชาชนตั้งแต่เกิด จนอายุหาย ซึ่งพันธุ์จะกำหนดนโยบายเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเน้นการให้ความสำคัญกับเด็ก การศึกษา ซึ่งจะเสนอผ่านโดย น.ส.ซาบีดา
ส่วน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำเสนอนโยบายไทยแลนด์พลัส จะนำพาอย่างไร ประชาชนจะได้เห็นนโยบายเพื่อนำพาประเทศไทยไปอย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ขอโอกาสประชาชน เพราะการทำงาน 3 เดือนที่ผ่านมา ผลเป็นที่ประจักษ์ เศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว มันสำปะหลัง นำประเทศไทยกลับคืนสู่เวทีโลก ซึ่งหากประชาชนให้โอกาสและเวลามากกว่านี้ พรรค ภท.ทำได้ดีกว่านี้
ฉะนั้นขอเลือกพรรคภูมิใจไทย กลับมา ถ้าก็เลือกกลับมา ท่านได้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศไทย
ขณะที่ นางศุภจี จะได้เป็นรองนายกฯ และดูแลเรื่องการค้า อุตสาหกรรมของประเทศไทย นายเอกนิติ จะยังเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีคลัง ที่ดูแลเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ และนอกเหนือจาก 3 รายชื่อ แม้วันนี้เค้าจะถูกมองคนนอก แต่ในทางการเมืองเค้าเป็นคนของเรา และเราจะทำได้ยิ่งใหญ่กว่า ดีกว่า สำเร็จกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





