Home
|
ข่าว

7 พรรคใหม่ กับ 3 ขั้วอำนาจ ลุ้นเก้าอี้เข้าสภา

นับถอยหลังเลือกตั้งครั้งใหญ่ ทำความรู้จักกับ 7 พรรคใหม่กับ 3 ขั้วอำนาจ ท่ามกลางกระแสการเมืองที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงและเสถียรภาพ
“นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งใหญ่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 สมรภูมิการเมืองไทยครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่การขับเคี่ยวของ “สามก๊ก” หรือ 3 ขั้วอำนาจหลักอย่าง พรรคประชาชน, พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย เท่านั้น แต่ไฮไลต์สำคัญที่น่าจับตาคือการตบเท้าเข้าสู่สนามของ 7 พรรคน้องใหม่ ที่มาพร้อมกับความหวังในการเป็น “ทางเลือกใหม่” ให้กับประชาชน ท่ามกลางกระแสการเมืองที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงและเสถียรภาพ
วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับพวกเขาว่า ใครเป็นใคร และมีไม้เด็ดอะไรมาสู้ศึกครั้งนี้” “เริ่มต้นด้วยกลุ่มพรรคที่ชูภาพลักษณ์นักบริหารและคนรุ่นใหม่… อย่าง
พรรคไทยก้าวใหม่ : นำโดย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ (ดร.เอ้) อดีตอธิบดี สจล. ที่มาพร้อมนโยบาย ‘ธนู 4 ดอก’ เน้นการใช้การศึกษาเป็นหัวใจในการเปลี่ยนประเทศ และการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
พรรคโอกาสใหม่: นำทีมโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงฯ ที่ผันตัวมาทำงานการเมือง ชูนโยบาย ‘โอกาสสำหรับคนไทยทุกคน’ เน้นการเตรียมความพร้อมคนสู่ยุค AI และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
พรรคพลวัติ: นำโดย นายกัณวีร์ สืบแสง ชูธงนโยบาย ‘การต่างประเทศเชิงรุก’ และแนวคิด ‘ประชาธิปไตยกินได้’ ที่เน้นสิทธิมนุษยชนควบคู่ไปกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
พรรครักชาติ: นำโดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ประกาศจุดยืนเป็น ‘Political Start-up’ ที่ไร้กลุ่มทุนใหญ่หนุนหลัง เน้นการทำงานการเมืองที่โปร่งใสและตรวจสอบได้
พรรคเศรษฐกิจ : (ภายใต้การนำใหม่) โดย พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ ชูจุดขายด้านการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมหภาค และการลดภาระหนี้สินครัวเรือนด้วยโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่
พรรคปวงชนไทย: นำโดย นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เน้นนโยบาย ‘SME ติดจรวด’ และการท่องเที่ยว 3:2:2 เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนดิจิทัลทั่วประเทศ
พรรคก้าวอิสระ : นำโดย นางสาวกชพร เวโรจน์ หรือ มาดามหยก ชูจุดเด่นการเป็นพรรคของ ‘จิตอาสา’ และคนธรรมดาที่พร้อมเข้ามาทำงานประสานรอยร้าวและพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่ “แม้ 7 พรรคน้องใหม่จะพยายามนำเสนอทางเลือกที่แตกต่าง แต่โจทย์ใหญ่คือการแทรกตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่าง 3 ขั้วอำนาจ ที่ครองพื้นที่สื่อและฐานเสียงเดิมไว้แน่นหนา
โดยพรรคประชาชน: ยังคงเป็นแชมป์ในใจคนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการปฏิรูปโครงสร้าง ส่วนพรรคเพื่อไทย: เน้นการใช้นโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาคและฐานเสียงดั้งเดิม ขณะพรรคภูมิใจไทย: ย้ำภาพพรรคสายปฏิบัติการที่มีเครือข่าย ‘บ้านใหญ่’ และผลงานที่จับต้องได้ “การที่พรรคน้องใหม่จะคว้าเก้าอี้ในสภาได้นั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของกระแส แต่คือการพิสูจน์ว่านโยบายของพวกเขา ‘ทำได้จริง’ และเป็นความต้องการที่แท้จริงของประชาชนใน พ.ศ. นี้หรือไม่” “7 พรรคใหม่ 3 ขั้วอำนาจ… นี่คือสีสันและความหลากหลายที่พิสูจน์ว่าประชาธิปไตยไทยยังคงเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าผลการเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 จะออกมาเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘เสียง’ ของประชาชนจะเป็นตัวกำหนดว่า ใครคือผู้ที่ได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่แทนในสภาผู้แทนราษฎร”

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube