Home
|
ข่าว

ทรูบิสิเนส จับมือ SymptomTrace สร้างนวัตกรรมโซลูชัน 5G Patient Digital Twin

Featured Image

ทรูบิสิเนส จับมือ SymptomTrace สร้างนวัตกรรมโซลูชัน 5G Patient Digital Twin ผสานศักยภาพเครือข่าย 5G และ AI พลิกโฉมการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบเชิงรุก

เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแบบไร้สัมผัส ติดตามสุขภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยกระดับมาตรฐานใหม่ด้านการบริการผู้ป่วยในโรงพยาบาล

กรุงเทพฯ 19 ธันวาคม 2568 – ทรูบิสิเนส เดินหน้าทรานสฟอร์มอุตสาหกรรมสาธารณสุขไทยสู่ดิจิทัล ผนึกกำลังร่วมกับ SymptomTrace สตาร์ทอัพด้านเฮลท์เทคสัญชาติไต้หวันที่มุ่งใช้ AI ขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรคเรื้อรัง พัฒนานวัตกรรมโซลูชัน 5G Patient Digital Twin ผสานอัจฉริยภาพเครือข่ายทรู 5G และ AI เปลี่ยนวิถีการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง ชูเทคโนโลยีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจวัดค่าสุขภาพได้แบบไร้การสัมผัสขั้นสูง ดูแลและเฝ้าระวังผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิด รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วย ครอบคลุมทั้งการวัดสัญญาณชีพและการเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่งข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายทรู 5G เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลด้วย Edge AI Analytics พร้อมเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยโดยรวมผ่านแพลตฟอร์มศูนย์กลาง สามารถแจ้งเตือนบุคลากรทางการแพทย์ทันทีเมื่อพบความผิดปกติหรือเหตุฉุกเฉิน ทั้งยังเอื้อประโยชน์ในการใช้ข้อมูลสุขภาพ ภายใต้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูง เพื่อวางแผนฟื้นฟูดูแลรักษาผู้ป่วยเฉพาะรายอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการแพทย์เฉพาะบุคคลให้เกิดขึ้นได้จริงในประเทศไทย เผยเตรียมส่งโซลูชัน 5G Patient Digital Twin เข้าสู่ตลาดผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้ป่วย และสถาบันดูแลสุขภาพ ในปี 2569

นวัตกรรม 5G Patient Digital Twin ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี 5G และระบบตรวจวัดแบบไร้การสัมผัสผ่านอุปกรณ์เซ็นเซอร์ ผสานการทำงานร่วมกับ AI เปลี่ยนรูปแบบการดูแลและเฝ้าระวังผู้ป่วยจากเชิงรับไปสู่เชิงรุก ด้วยระบบติดตามสุขภาพที่มีความปลอดภัยสูง ต่อเนื่อง และมีความเป็นส่วนตัว สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรการแพทย์ และความคุ้มค่าด้านต้นทุนสำหรับโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้ป่วย และสถาบันดูแลสุขภาพ

ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำบริการสื่อสารและดิจิทัลโซลูชันครบวงจรสำหรับลูกค้าธุรกิจ ทรูบิสิเนสบูรณาการเครือข่ายทรู 5G คลาวด์ เทคโนโลยี AI และอุปกรณ์เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับแบบไร้สัมผัส พัฒนานวัตกรรม 5G Patient Digital Twin ที่จะช่วยให้โรงพยาบาลและศูนย์ดูแลผู้ป่วยสามารถเฝ้าระวังและส่งมอบบริการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

หลายงานวิจัย*เกี่ยวกับ 5G Patient Digital Twin ได้ระบุผลการศึกษาเชิงประจักษ์ว่า การตรวจวัดสัญญาณชีพระยะไกล ช่วยให้ตรวจพบภาวะทรุดลงได้เร็วยิ่งขึ้น และในหลายกรณีสัมพันธ์กับการลดการกลับมารักษาซ้ำภายใน 30-60 วัน ทั้งยังสามารถตรวจพบความเสี่ยงได้เร็วขึ้น ช่วยพัฒนาผลลัพธ์ด้านการรักษา ลดอัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาล 9.6% และลดอัตราการเสียชีวิต 3% นอกจากนี้ ระบบเฝ้าระวังสัญญาณชีพระยะไกลแบบอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการดูแลตามขั้นตอนประจำและการประสานงานได้ประมาณ 45.9% ทำให้พยาบาลมีเวลามากขึ้นในการดูแลผู้ป่วยโดยตรง”

“ความร่วมมือกับ SymptomTrace ครั้งนี้ ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นพันธมิตรในเส้นทาง Digital & AI Transformation ขององค์กรไทย ยกระดับบริการสาธารณสุขยุคใหม่ทั้งด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่า เพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนของคนไทย” ดร.ธีรเดช กล่าวเสริม

นายจอร์จ ไท ประธานกรรมการบริหาร บริษัท SymptomTrace เปิดเผยว่า “ด้วยโครงสร้างพื้นฐานขั้นสูงของทรูบิสิเนส เสริมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำของอินเทล (Intel) เราสามารถขยายการให้บริการเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ Digital Twin ให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เพื่อช่วยให้โรงพยาบาลต่างๆ ติดตามอาการของผู้ป่วยเรื้อรังได้อย่างปลอดภัยและชาญฉลาด”

เทคโนโลยีเบื้องหลัง 5G Patient Digital Twin

5G Patient Digital Twin ทำงาน 2 ฟังก์ชันหลัก คือ การวัดสัญญาณชีพ และ การตรวจจับความเคลื่อนไหว ตลอดจนแนวโน้มการพลัดตกเตียงและการล้ม โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดแบบไร้การสัมผัสขั้นสูง และเรดาร์ (Radio Detection And Ranging) เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวและสร้างข้อมูลแผนที่ 3 มิติของอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และลักษณะการเคลื่อนไหวของร่างกาย ขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัว ด้วยการตรวจจับเพียงโครงร่างและรูปแบบการเคลื่อนไหวเท่านั้น สามารถดูแลและเฝ้าระวังได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วย

ข้อมูลสัญญาณชีพและการเคลื่อนไหวต่างๆ ของผู้ป่วยจากเซ็นเซอร์ จะถูกประมวลผลบนอุปกรณ์ปลายทางด้วยความสามารถของ Edge AI และส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายทรู 5G แบบเรียลไทม์ รวดเร็ว เต็มประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่อจัดเก็บบนแพลตฟอร์มส่วนกลางที่มาพร้อมโซลูชันช่วยบริหารข้อมูลแบบศูนย์กลาง เพิ่มศักยภาพการวิเคราะห์และประมวลผลอย่างต่อเนื่องผ่านชุดซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างแบบจำลอง AI ที่ปรับให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีของอินเทล (Intel) และศูนย์ข้อมูล AI คลาวด์ของทรู เพื่อให้แน่ใจว่า ความสามารถในการตรวจจับความผิดปกติจะมีการพัฒนาต่อยอดเพิ่มขึ้น และมีความแม่นยำมากขึ้นในการแจ้งเตือนไปยังบุคลากรทางการแพทย์ทันทีที่พบความผิดปกติหรือมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระ ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการดูแลโดยรวม โดยเฉพาะสำหรับการดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก

นอกจากนี้ โรงพยาบาลหรือศูนย์ดูแลผู้ป่วยยังสามารถใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวินิจฉัยข้อมูล เพื่อวางแผนฟื้นฟูดูแลรักษาผู้ป่วยเฉพาะรายได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูง ซึ่งเป็นการสนับสนุนการแพทย์เฉพาะบุคคลให้เกิดขึ้นจริง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนส่งเสริมยุทธศาสตร์สุขภาพดิจิทัลของประเทศ

#TrueBusiness #SymptomTrace #DigitalPatientTwin #SmartHealthcare #AIinMedicine

*อ้างอิง https://doi.org/

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube