ท่าทีมหาอำนาจ ต่อสถานการณ์ไทย–กัมพูชา
ทั่วโลกกำลัง จับตา สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา แต่ตอนนี้ชาติมหาอำนาจ กำลังเริ่มแสดงท่าทีกันออกมาแล้ว เรามาสรุปกันว่า ชาติมหาอำนาจว่าอย่างไรกันบ้าง แล้วมีผลอย่างไรบ้างกับ “ไทย”
เริ่มต้นกันที่ สหรัฐอเมริกา ใช้ภาษีขู่ ไทย-กัมพูชาถ้าไม่หยุดปะทะ
15 ธ.ค. 2568 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ส่งสัญญาณ แข็งกร้าว เตือนทั้งไทยและกัมพูชา ให้ยุติความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการทางภาษีมาขู่ นี่เป็นบทสัมภาษณ์ของโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่าน The Wall Street Journal วันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ทรัมป์ อ้างว่า ได้ใช้มาตรการคำขู่ขึ้นภาษีกับไทยและกัมพูชา เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น “ผมบอกทั้งสองฝ่ายว่า ถ้าคุณทำสงคราม ไม่เพียงแต่ผมจะยกเลิกข้อตกลงทางการค้าที่เรามีอยู่
แต่ผมจะขึ้นภาษีกับประเทศของคุณด้วย” ทรัมป์เสริมต่อว่า ไม่มีผู้นำคนใดในโลกวางท่าทีแบบนี้ได้ นอกจากเขาเอง ”
ล่าสุด รมว. พาณิชย์ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้นำประเด็นการ ขึ้นภาษีตอบโต้มาใช้เป็นเงื่อนไขต่อรองให้ไทย–กัมพูชาหยุดยิง ระหว่างการสนทนาทาง โทรศัพท์กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งในการสนทนาซึ่งใช้เวลาราว 20 นาที ประธานาธิบดี “ทรัมป์” เพียงสอบถามความคืบหน้า การเจรจาภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในช่วงท้ายก่อนวางสาย หลังนายกรัฐมนตรีแจ้งว่ายังไม่ มีการหารือต่อ ประธานาธิบดีจึงระบุว่าจะประสานให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เดินหน้าเจรจากับไทยต่อ โดยไม่ได้ยกเรื่องภาษีมาเป็นข้อต่อรองทางการเมือง
จีน ชี้ “หยุดยิง–คุ้มครองพลเรือน” คือภารกิจเร่งด่วน
จีน โดยนายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ การยุติการสู้รบและการคุ้มครองชีวิตพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้ไทยและกัมพูชา ใช้ความยับยั้งชั่งใจ ลดความตึงเครียด และเปิดการเจรจาโดยตรง
จีนสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาและปรึกษาหารือกันโดยตรง สนับสนุนความพยายาม เพื่อสันติภาพของอาเซียน โดยเฉพาะมาเลเซีย และสนับสนุนการแสวงหาทางออก ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ภายใต้กรอบอาเซียน
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ระบุผ่านเพจเฟซบุ๊ก ยก ภาษิตจีนโบราณ ที่กล่าวไว้ว่า “อยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยความเป็นมิตรและมีเมตตา ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศเอง”
นายกฯมาเลเซีย ขอ 2 ประเทศหยุด ขัดแย้ง
ส่วนทางด้าน มาเลเซีย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบทุกรูปแบบ และหลีกเลี่ยงการดำเนินการทางทหารเพิ่มเติม พร้อมเสนอให้คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ลงพื้นที่ โดยใช้การสังเกตการณ์จากภาคพื้นดินควบคู่ข้อมูลจากดาวเทียมของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม หลังพ้นเส้นตายที่มาเลเซียเสนอเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พบว่า ยังคงมีเสียงปะทะ ตามแนวชายแดน ขณะที่รัฐบาลไทยยืนยันว่า ยังไม่มีข้อตกลง และย้ำจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ
ต่อมา กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยืนยันว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) วาระพิเศษ ซึ่งเดิมกำหนดวันที่ 16 ธ.ค. ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 22 ธ.ค. ตามคำขอของประเทศไทย โดยมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
รัสเซีย แถลงการณ์ ไม่มีพลเมืองถูกจ้าง ในความขัดแย้ง
รัสเซียออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไม่มีพลเมืองรัสเซียถูกว่าจ้างเป็นทหารรับจ้างในความขัดแย้ง ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง และมีแนวโน้มว่าจะถูกสร้างขึ้นจากแหล่งข้อมูลนอกภูมิภาค มีเป้าหมายเพื่อบั่นทอน สิทธิพลเมืองชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยวหรือประกอบธุรกิจ เป็นการสร้างความเสียหายต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างประเทศรัสเซียและไทย
พร้อมย้ำจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี “ประเทศรัสเซียมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตร และมีความร่วมมือกับประเทศไทยและกัมพูชา เราขอยืนยันและสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทนี้โดยสันติวิธีเท่านั้น”
ฝรั่งเศสกังวล เรียกร้องไทย-กัมพูชายุติการปะทะโดยทันที
ล่าสุด คือ ท่าทีของฝรั่งเศส กระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 68 แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการเผชิญหน้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่าง ประเทศไทยและกัมพูชา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
ฝรั่งเศสเรียกร้องให้มีการเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 อย่างเต็มที่ และปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศที่รับรองเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ณ การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
ฝรั่งเศสเชื่อมั่นว่าหนทางเดียวที่จะบรรลุการยุติข้อพิพาทอย่างยั่งยืนและสันติวิธีได้นั้น คือการกลับมาเจรจา การเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และพันธสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายมี ต่อประเทศสมาชิกอาเซียน
ท่ามกลางแรงกดดันจากมหาอำนาจและประเทศเพื่อนบ้าน บทบาทของไทย บนเวทีการเมืองระหว่างประเทศยังคงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าจะรักษาสมดุล ระหว่างการปกป้องอธิปไตยของประเทศ กับการคลี่คลายความขัดแย้งผ่านกลไกทางการทูตได้อย่างไร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





