”ลูกยางไทย” กระแสแรงไม่หยุด บนเวทีซีเกมส์2025
วอลเลย์บอลไทยลุ้นทองซีเกมส์ 33 ทีมชายคืนฟอร์ม ทีมหญิงไล่แชมป์สมัยที่ 17 ท่ามกลางเสียงเชียร์เจ้าภาพ
วอลเลย์บอลคือหนึ่งในกีฬาที่สร้าง “ปรากฏการณ์” ให้สังคมไทยมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเกมระดับทวีปหรือระดับโลก ชื่อของนักวอลเลย์บอลไทยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนจำนวนมากหันมาเล่นกีฬา ความสำเร็จจากทั้งทีมชายและทีมหญิง รวมถึงพลังการเชียร์อันล้นหลาม ทำให้วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่มีฐานแฟนเติบโตเร็วที่สุดชนิดหนึ่งในยุคโซเชียลมีเดีย และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกปี
ซีเกมส์บรรจุวอลเลย์บอลเข้าชิงชัยครั้งแรกเมื่อปี 1977 และตลอด 23 ครั้งที่ผ่านมา ทีมชาติไทยคือหนึ่งในชาติที่ทำผลงานได้ดีที่สุด โดยเฉพาะฝั่งทีมหญิงที่กลายเป็น “ตำนานแห่งทะเลอาเซียน” ด้วยการคว้าแชมป์ถึง 16 สมัย ส่วนทีมชายก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ทำผลงานโดดเด่น เรียกได้ว่าไทยไม่เคยหลุดจากกลุ่มทีมลุ้นเหรียญทองเลยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา
การเป็นเจ้าภาพในซีเกมส์ครั้งที่ 33 ปีนี้ ทำให้วอลเลย์บอลยิ่งกลายเป็นความหวังสำคัญของทัพกีฬาไทย ไม่ใช่เพียงเพราะผลงานในอดีต แต่เพราะการสนับสนุนของแฟนกีฬาในบ้านเรา ที่พร้อมจะสร้างบรรยากาศการเชียร์ในสนามให้ดังกึกก้องยิ่งกว่าครั้งใด ๆ
ผลงานของทีมชายไทยในซีเกมส์ถือว่าแข็งแกร่งมาโดยตลอด คว้าแชมป์รวม 8 สมัย และสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการกลับมาคว้าเหรียญทองครั้งล่าสุดในปี 2017 ที่มาเลเซีย ปีนี้ทีมไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เวียดนาม ลาว และสิงคโปร์ ซึ่งถือว่าเป็นสายที่มีลุ้นเข้ารอบรองชนะเลิศสูง แม้เวียดนามจะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งและกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ทีมไทยก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะคว้าชัยในรอบแรกได้
หากทะลุเข้ารอบต่อไป ทีมไทยอาจต้องเผชิญหน้ากับ อินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ ซึ่งต่างเป็นชาติที่สร้างปัญหาให้ไทยมาโดยตลอด อินโดนีเซียมีความแข็งแกร่งด้านพลังบวกความสูง ขณะที่ฟิลิปปินส์ มีพัฒนาการเร็วและมีตัวตบลูกครึ่งที่เพิ่มคุณภาพทีมอย่างมาก แต่ทีมไทยก็มีความลงตัวด้านแท็กติกและประสบการณ์ พร้อมสู้เต็มที่เพื่อกลับไปยืนบนโพเดียมอีกครั้ง
หากพูดถึงทีมหญิงไทยในซีเกมส์ หลายคนคงคุ้นตากับคำว่า “แชมป์เก็บเรียบ” เพราะทีมสาวไทยคว้าเหรียญทองถึง 16 สมัย และป้องกันแชมป์ต่อเนื่อง 14 สมัย ตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีชาติไหนในอาเซียนที่สามารถหยุดความร้อนแรงของไทยได้ ทำให้ชื่อของพวกเธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จยาวนานที่สุดชนิดหนึ่งในประวัติศาสตร์กีฬาไทย
ปีนี้ ทีมหญิงไทยอยู่ร่วมกลุ่มกับ สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ซึ่งถือว่าไม่ใช่สายที่หนักมาก แต่ก็ต้องเล่นอย่างมีสมาธิ เพราะฟิลิปปินส์มีนักตบลูกครึ่งที่ช่วยยกระดับทีมได้พอสมควร ขณะที่สิงคโปร์เองก็เป็นทีมที่กำลังสร้างตัวและมีเกมรับที่ไม่ธรรมดา
เพื่อเป้าหมายในการรักษาแชมป์ ครั้งนี้จึงเป็นซีเกมส์ที่ทีมไทยเรียกผู้เล่นชุดใหญ่แบบจัดเต็ม นำโดยแกนหลักที่แฟน ๆ คุ้นเคยเป็นอย่างดี
“ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ ตัวเซตมือหนึ่ง ผู้คุมจังหวะเกม
“แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง บอลเร็วตัวเก่งที่สร้างปัญหาให้คู่แข่งมานับไม่ถ้วน
“บีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ดาวตบหัวเสาผู้เป็นกำลังทำแต้มสำคัญ
“บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี ผู้เล่นที่ครบเครื่องทั้งเกมรุกและเกมรับ
“เพียว” อัจฉราพร คงยศ ตัวทำเกมที่โดดเด่นด้วยลูกเสิร์ฟและลูกตบ
“แป้น” ปิยะนุช แป้นน้อย ลิเบอโร่ประสบการณ์สูง ผู้เป็นเหมือนหัวใจของแผงรับไทย
ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชอ็อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ที่เน้นเกมทีมเวิร์ก การเคลื่อนที่เร็ว และความแม่นยำของผู้เล่นทุกตำแหน่ง ไทยจึงยังคงเป็นทีมเต็งแชมป์ที่มีโอกาสป้องกันบัลลังก์ได้สูงมาก
เมื่อการแข่งขันเริ่มต้น ตรวจสอบได้ทันทีว่าทีมชาติไทยยังคงรักษามาตรฐานเกมระดับท็อปของภูมิภาคเอาไว้ได้ ทั้งทีมเวิร์กที่เล่นอย่างเข้าใจกัน บวกกับความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในการเล่นเป็นเจ้าภาพ ทำให้ทั้งสองแมตช์แรกของทีมหญิงเต็มไปด้วยพลังและความแม่นยำ
นอกจากผลงานในสนามแล้ว สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ “บรรยากาศการเชียร์” ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก บัตรหลายวันถูกจับจองจนเต็ม ความคึกคักของแฟน ๆ ที่ส่งเสียงสนับสนุนตลอดทั้งเกม ทำให้นักกีฬาเล่นได้อย่างมั่นใจและสนุกไปกับทุกจังหวะ
การแข่งขันในบ้านไม่เพียงช่วยเพิ่มพลังให้ผู้เล่น แต่ยังทำให้แฟนกีฬารู้สึกผูกพันกับทีมมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการที่เด็กและเยาวชนจำนวนมากเดินทางมาชมเกมจริง เพื่อดูไอดอลของพวกเขาในสนามด้วยตาตัวเอง
ซีเกมส์ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การล่าเหรียญทอง แต่ยังเป็นเวทีที่คนไทยทั้งประเทศจะได้ส่งเสียงเชียร์ให้ดังกึกก้องในบ้านของเราเอง การมีแฟน ๆ เติมเต็มทุกที่นั่งในหัวหมากตั้งแต่รอบแรก คือภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักที่คนไทยมีต่อทีมวอลเลย์บอล และเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ทีมเดินหน้าต่อไปด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง
ไม่ว่าจะเป็นทีมชายที่พร้อมพิสูจน์ตัวเอง หรือทีมหญิงที่กำลังไล่ล่าการครองบัลลังก์สมัยที่ 17 นี่คือช่วงเวลาที่แฟนกีฬาไทยไม่ควรพลาดแม้แต่วินาทีเดียว
ร่วมชม ร่วมเชียร์ และร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคมนี้ และส่งกำลังใจให้ทัพวอลเลย์บอลไทยก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จอีกครั้ง บนแผ่นดินไทยของเราเอง!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





